วันเสาร์ที่ 17 มี.ค. ถึง วันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. 2555 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ขอแจ้งปิดให้บริการสาขาและเอทีเอ็มทั่วประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 12, 2012 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย วันเสาร์ที่ 17 มี.ค. ถึง วันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. 2555 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ขอแจ้งปิดให้บริการสาขาและเอทีเอ็มทั่วประเทศ รวมทั้งบริการอื่นๆ เป็นการชั่วคราว เพื่อพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์หลัก (Core Banking System) และจะเปิดให้บริการตามปกติ วันจันทร์ที่ 19 มี.ค. 2555 ตามเวลาทำการ รายงานข่าว จากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้ดำเนินการพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์หลัก (Core Banking System) มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ขณะนี้การพัฒนาระบบดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย ธนาคารจึงมีความจำเป็นต้องปิดให้บริการสาขา สำนักงานแลกเปลี่ยน และจุดให้บริการอื่นๆของธนาคารทั่วประเทศเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2555 ถึง วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2555 และจะเปิดให้บริการตามปกติ ในวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 ตามเวลาทำการ นอกจากนี้ บริการอื่นๆที่ธนาคารจำเป็นต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย 1. ปิดบริการตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทั่วประเทศ โดยบัตรเอทีเอ็มของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และบัตรสินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช จะไม่สามารถใช้บริการได้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย รวมถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารอื่นๆเป็นการชั่วคราว ในวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 23:00 น. จนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 เวลา 06:00 น. 2. ปิดบริการเครื่องรับฝากเงินสดอัตโนมัติทั่วประเทศ บริการอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง และบริการโฟนแบงค์กิ้งเป็นการชั่วคราว ในวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 23:00 น. จนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 เวลา 06:00 น. 3. ปิดบริการเครื่องปรับรายการสมุดเงินฝากอัตโนมัติ เป็นการชั่วคราว ในวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 23:00 น. ถึง วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2555 เวลา 06:00 น. อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าว ธนาคารยังคงให้บริการสอบถามข้อมูล และรับแจ้งอายัดบัตรทุกประเภทตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง CIMB Thai Care Center 0 2626 7777 อนึ่ง การปิดให้บริการชั่วคราวจะไม่มีผลกระทบใดๆต่อยอดเงินในบัญชีและดอกเบี้ย รวมถึงภาระผูกพันต่างๆของลูกค้าทุกรายกับธนาคาร ทั้งเงินฝาก สินเชื่อ อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ สำหรับการพัฒนาระบบ Core Banking ใหม่ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดี และได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง เพราะทำงานบนระบบ Core Banking ใหม่ที่ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น ทั้งนี้ การพัฒนาระบบ Core Banking ใหม่ ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ครั้งนี้ เป็นการวางรากฐานระบบ Core Banking มาตรฐานเดียวกันของกลุ่มซีไอเอ็มบี ภายใต้ชื่อ “โครงการ 1Platform” โดยเริ่มจากประเทศไทย ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นประเทศแรก ตามด้วยมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ตามลำดับ เพื่อนำไปสู่ระบบ Core Banking มาตรฐานเดียวกันภายในปี 2558 สะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มซีไอเอ็มบีในการวางกรอบการดำเนินงานภายใต้ระบบเดียวกันเพื่อเป้าหมายในการเป็นธนาคารชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนตามที่ตั้งไว้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ