กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement:
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,650.30 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.30 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,646.30 -1,661.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆและปิดบวกได้เล็กน้อยจากการทำ cover short อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความต้องการในตลาด physical ที่ชะลอตัวลงจากอินเดียเมื่อมีการขึ้นภาษีนำเข้าทองคำ และกองทุนทองคำชะลอการลงทุน โดยกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ 3 แห่งขายทองคำออกมากกว่า 100,000 ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการขายครั้งใหญ่ในรอบ 3 เดือน นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศ แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่สดใส ในขณะที่แถลงการณ์ของประธานเฟด นายเบน เบอร์นันเก้ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆนอกจากกล่าวว่า จะยังไม่ควรยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป ส่วนค่าเงินยูโรเมื่อคืนนี้ได้ร่วงลงแรง แต่ในเช้าวันนี้ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้น และเงิน USD อ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลการผลิตของยุโรปที่จะเปิดเผยในวันนี้ ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,655 USDต่อออนซ์ ลักษณะความเคลื่อนไหวเป็นการเคลื่อนตัวออกทางด้านข้าง ภาพกราฟในราย 120 นาที คาดว่าวันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณ 1,660 และถัดไปบริเวณ 1,670 ถ้าผ่านแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,684 และแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,700 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนแนวรับแรกมีที่บริเวณ 1,646 และถัดไป 1,640/1,634 แนวรับบริเวณ 1,634 ยังเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในขณะนี้ นักลงทุนระยะสั้นอาจเปิด Long บริเวณ 1,634/1,640 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,660/1,670 หรือ Trading ในกรอบ 1,634 — 1,670
Technical Analysis:
ภาพกราฟในราย 120 นาที มีแนวรับแรกบริเวณ 1,646 และถัดไป 1,640/1,634 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,660 และถัดไปบริเวณ 1,670/1,680 ภาพกราฟในรายวันเคลื่อนไหวในกรอบ เป็นลักษณะ side way รอการ break ซึ่งอาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้นๆ ตามการอ่อนค่าของเงิน USD แต่คาดว่ากรอบการขึ้นยังมีจำกัดและจะมีแรงขายทำกำไรที่แนวต้าน ส่วนการปรับลดลงต่ำกว่า 1,634 จะส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น และมีเป้าหมายการลงที่บริเวณ 1,600. ภาพกราฟในรายสัปดาห์จากการปรับลดแรงในสัปดาห์ก่อนทำให้สัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางขาลง ผู้ไม่มีสถานะถ้าไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,660/1,670/1,680 เป็นจังหวะเปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,640 / 1,634 โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,690 ส่วนนักลงทุนที่เล่นสั้น 1 — 2 วัน Trading ในกรอบ 1,634 — 1,670
Key Point in Precious Market:
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ มีปัจจัยลบได้แก่ การขายทองคำออกของกองทุน ETF ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของอินเดียลดลงเนื่องจากการประท้วงหยุดงาน และจากการเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำ การลดการถือครองทองคำเนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ราคาพันธบัตรของสเปนและอิตาลีร่วงลง และธนาคารพาณิชย์กู้เงินจาก ECB กว่า 1.15 หมื่นล้านยูโรทำให้ค่าเงินยูโรร่วงลงแรงเมื่อวานนี้ ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การอ่อนค่าของเงิน USD ในช่วงเช้าวันนี้เมื่อประธานเฟด กล่าวว่า ไม่ควรถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อ EIA รายงานว่า สต๊อกน้ำมันของสหรัฐลดลงอย่างพลิกความคาดหมาย การผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อให้กับธนาคารเพื่อการเกษตร 379 สาขา สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นเมื่อมีการเกินดุลการค้ามากเกินคาดในเดือน ก.พ.ทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน และเงินหยวน
- ประเด็นที่ต้องติดตาม ข้อมูลภาคการผลิตของยูโรโซนที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินยูโรและค่าเงิน USD การที่ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค.
- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.พ. วันศุกร์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.
- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,290.25 ตัน
ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.39 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.23 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.87 — 32.41 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 25.68 ตันเหลือถือโลหะเงินจำนวน 9,726.99 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.8/ 31.6 แนวต้านบริเวณ 32.6/ 32.8 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.6 — 32.8