ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 2, 2012 09:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Price Movement ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,671.90 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.00 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,661.20 -1,672.70 USDต่อออนซ์ จากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น และค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง เมื่อรมว.คลังยูโรโซนมีมติเพิ่มขนาดกองทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้เป็น 8 แสนล้านยูโร ราคาทองคำเมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 มีราคาเพิ่มขึ้น 6.4% แต่ในเดือนมี.ค.มีราคาลดลง 2.4% โดยการเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,600 — 1,850 USDต่อออนซ์ แต่ในกรณีเลวร้ายคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,500 — 1,750 USDต่อออนซ์ ซึงปัจจัยลบที่จะมีผลในระยะกลาง คือ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ความต้องการในตลาด physical ในเอเชียเริ่มลดลงเมื่ออินเดียเพิ่มภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตามทองคำไม่ได้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแต่เพียงอย่างเดียว แต่ทองคำมีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น ดังนั้นการที่เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และปัญหาหนี้ยุโรปคลี่คลายจะมีผลบวกต่อราคาทองคำเหมือนกับสินทรัพย์เสี่ยงในบางช่วง สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,669 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟในราย 120 นาที ถ้ายืนเหนือ 1,670 จะส่งสัญญาณซื้อในระยะสั้น แต่ถ้าไม่สามารถยืนได้อาจปรับตัวลดลงมาที่บริเวณแนวรับบริเวณ 1,660/1,645/1,628 แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้บริเวณ 1,654/1,645 ถือต่อถ้าราคาสามารถผ่าน 1,670 ได้ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวนแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,688 แต่ถ้าไม่ผ่าน 1,670 ปิดทำกำไร คาดว่าวันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณ 1,670/1,688 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,700 /1,717 และแนวรับบริเวณ 1,645/1,628 Technical Analysis ภาพกราฟในราย 120 นาที ถ้ายืนเหนือ 1,670 จะส่งสัญญาณซื้อในระยะสั้น แต่ถ้าไม่สามารถยืนได้อาจปรับตัวลดลงมาที่บริเวณแนวรับ1,660/ 1,645/1,628 แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้บริเวณ 1,654/1,645 ถือต่อถ้าราคาสามารถผ่าน 1,670 ได้โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวนแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,688 แต่ถ้าไม่ผ่าน 1,670 ปิดทำกำไร คาดว่าวันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณ 1,670/1,688 ส่วนในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,700/1,717 และแนวรับบริเวณ 1,645/1,628 Key Point in Precious Market - ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นและค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อรมว.คลังยูโรโซนมีมติเพิ่มขนาดกองทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ ( + ) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากความกังวลในเรื่องอิหร่านและค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐในเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น ( +/- ) กิจกรรมของโรงงานขนาดใหญ่ของจีนขยายตัวสูงสุดในรอย 11 เดือนจะทำให้มีความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นในเอเชียเปิดบวกในเช้าวันนี้ ( +/- ) สเปนเสนองบประมาณรัดเข็มขัดต่อสภาลดการขาดดุลงบประมาณลง 27 พันล้านยูโร (+/-) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ( - ) - ประเด็นที่ต้องติดตาม ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ กรีซอาจจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ค. - การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ เดือนมี.ค. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ. วันอังคาร ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คเดือนมี.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.พ. เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 13 มี.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมี.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. - SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,286.62 ตัน ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.49 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.48 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.13— 32.63 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินจำนวน 12.08 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,734.55 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.0/ 31.2 แนวต้านบริเวณ 32.7/ 33.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.2 — 32.9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ