ดาว เคมิคอลเปิดฐานการผลิต ณ นิคมอุตสาหกรรมเอเชียอย่างเป็นทางการ

ข่าวทั่วไป Monday April 2, 2012 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ดาว เคมิคอลเปิดฐานการผลิต ณ นิคมอุตสาหกรรมเอเชียอย่างเป็นทางการชูประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพร้อมฉลองการดำเนินงานครบรอบ 45 ปี ดาว เคมิคอล ประเทศไทย และ 25 ปี เอสซีจี-ดาว กรุ๊ป บริษัท ดาว เคมิคอล ผู้นำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับโลก ได้ประกาศความสำเร็จโครงการขยายฐานการผลิตในประเทศไทย พร้อมเปิดดำเนินการฐานการผลิตอย่างเป็นทางการ ณ นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง ดาว เคมิคอล เอสซีจี และ โซลเวย์ ภายใต้โครงการขยายฐานการผลิตชื่อ “Thai Growth Project” โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 100,000 ล้านบาท โครงการขยายฐานการผลิตเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2549 ประกอบด้วยโรงงานปิโตรเคมีปลายน้ำ รวมทั้งโรงงานผลิตโอเลฟินส์ ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ เพื่อผลิตวัตถุดิบสำหรับป้อนให้กับโรงงานปลายน้ำต่างๆ ในโครงการฯ ประกอบด้วย โรงงานโพลีเอททีลีนแห่งที่สอง โรงงานผลิตโพลีเอททิลีนชนิดยืดหยุ่นพิเศษ โรงงานผลิตโพรพิลีนออกไซด์ และโรงงานผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดย บริษัท โซลเวย์ เอส เอ ซึ่งความสำเร็จในการก่อสร้างโรงงานต่างๆ ภายใต้โครงการขยายฐานการผลิตนี้ ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัทดาว ดาว เคมิคอล ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงสุด มาใช้กับโครงการตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการก่อสร้างโรงงานให้มีกระบวนการผลิตสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ โรงงานโพรพิลีนออกไซด์ มีการนำเทคโนโลยีการผลิตโพรพิลีนออกไซด์จากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือเรียกสั้นๆว่า “เทคโนโลยี เอชพีพีโอ” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่บริษัท ดาว และบริษัทบีเอเอสเอฟ ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาซึ่งได้รับรางวัลสูงสุดด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศ จากสถาบันวิศวกรรมเคมีแห่งสหราชอาณาจักร และรางวัลจากประธานาธิบดี สำหรับความท้าทายในการรักษาสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมเคมี ปี 2553 (2010 Presidential Green Chemistry Challenge Award จาก U.S. Environmental Protection Agency (EPA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยให้สามารถลดน้ำเสียจากการผลิตได้ถึง 70-80% ลดการใช้พลังงานได้ถึง 35% และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการใช้วัตถุดิบที่เรียบง่ายเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตแบบเดิม นายแอนดรูว์ ลิเวอริส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัทดาว เคมิคอล เปิดเผยว่า“ความสำเร็จของโครงการขยายฐานการผลิต Thai Growth Project ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ดาว ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นการแสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาของบริษัท ดาวเคมิคอล ที่มีต่อประเทศไทยซึ่งในปีนี้บริษัท ดาว ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยมีแผนการสร้างโรงงานโพรพิลีนไกลคอล และโรงงานโพลิโอเลฟินฟิล์มสำหรับเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ ดาว ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากยิ่งขึ้นและเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของโลกพร้อมๆ ไปกับการร่วมสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความก้าวหน้าให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป” นายจิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การเปิดดำเนินการฐานการผลิตแห่งใหม่ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วยอีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมไทยในการผลิตเคมีภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ รวมทั้งการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและมาตรฐานการผลิตระดับโลกมาสู่ประเทศไทย จะทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืนซึ่งผมขอขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และขอบคุณพนักงานของเราทุกคนที่ยึดมั่นในนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของบริษัท ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยตลอดโครงการ จนทำให้ Thai Growth Project บรรลุความสำเร็จด้วยสถิติด้านความปลอดภัยอันยอดเยี่ยมนั่นคือ การก่อสร้างโครงการด้วยความปลอดภัยต่อเนื่องถึง 41 ล้านชั่วโมง โดยไม่เกิดการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว” นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “เอสซีจี รู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในความสำเร็จของ Thai Growth Project ร่วมกับดาว เคมิคอล นับเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุน และยังเป็นฐานการผลิตที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้ความเชื่อมั่น ทั้งนี้ด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ สถานที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของอาเซียน การรวมตัวของภาคการผลิตที่เข้มแข็ง ระบบสาธารณูปโภคที่ดี รวมถึงการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคธุรกิจ ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ผมมั่นใจว่าดาว เคมิคอล และเอสซีจี เคมิคอลส์ จะเดินหน้าพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป” นายชลณัฐ ญาณารณพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ในเอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จใน Thai Growth Project ความสำเร็จในครั้งนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโรงงานผลิตโอเลฟินส์ ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ให้สามารถต่อยอดไปสู่การผลิตปิโตรเคมีอย่างครบวงจร พร้อมทั้งช่วยเพิ่มสัดส่วนของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ HVA อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างดาว เคมิคอล และเอสซีจี เคมิคอลส์ ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี นำมาซึ่งการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” นายแวงซอง เดอ คูแปร์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจเคมีและกรรมการบริหาร บริษัท โซลเวย์ กล่าวว่า “โซลเวย์รู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมพัฒนาโรงงานไฮโดเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีขนาดใหญ่ระดับโลกในประเทศไทยในครั้งนี้ และจะยังคงร่วมมือกับบริษัท ดาว ในการนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ไปพัฒนาในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก โรงงานไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แห่งใหม่ของโซลเวย์นี้ แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเปอร์ออกไซด์ของเราที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยังแสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาของโซลเวย์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เกี่ยวกับบริษัทดาวเคมิคอล บริษัท ดาว เคมิคอล ผสานพลังของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในโลก บริษัทสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเคมีด้วยหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งแก้ปัญหาที่ท้าทายยิ่งของโลก อาทิ ปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด การผลิตและอนุรักษ์พลังงาน และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ ดาว เคมิคอล ผู้นำในอุตสาหกรรมที่หลากหลายตั้งแต่ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ วัสดุทางเทคโลโนยีชั้นสูงต่างๆ วิทยาศาสตร์การเกษตร และธุรกิจพลาสติก ได้นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นในการผลิตสินค้าให้กับลูกค้าในกว่า 160 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ น้ำ พลังงาน สีและสารเคลือบผิว รวมทั้งธุรกิจทางการเกษตร โดยในปี พ.ศ. 2554 บริษัทมียอดขายทั่วโลกประมาณ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท มีพนักงานจำนวน 52,000 คนทั่วโลก และมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ ซึ่งผลิตจากโรงงาน 197 แห่ง ใน 36 ประเทศ ทั้งนี้คำว่า “บริษัท” หรือ “ดาว” หมายถึงบริษัท ดาว เคมิคอล และบริษัทในเครือ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dow.com เกี่ยวกับเอสซีจี เอสซีจีก่อตั้งขึ้นในปี 2456 เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแบ่งเป็น 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ธุรกิจกระดาษ ธุรกิจซิเมนต์ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และธุรกิจจัดจำหน่าย ปัจจุบันเอสซีจีมีบริษัทในเครือรวมกว่า 200 บริษัท มีพนักงานรวมประมาณ 38,000 คน และผลิตสินค้ากว่า 64,000 รายการ ปัจจุบันเอสซีจี เคมิคอลส์ ขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งด้านสินค้าและบริการ กระบวนการทำงาน และรูปแบบธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองความต้องการของตลาด นอกจากนี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ ยังได้ร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scg.co.th เกี่ยวกับโซลเวย์ โซลเวย์เป็นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมเคมีที่มุ่งมั่นพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน การควบรวมกิจการกับบริษัทโรเดียเมื่อเร็วๆ นี้ ช่วยทำให้โซลเวย์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่มียอดขายในตลาดมากกว่า 90% และเป็นหนึ่งในสามของผู้นำธุรกิจระดับโลก โดยโซลเวย์นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและผลประกอบการของลูกค้าในตลาด อาทิ ผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปโภคบริโภค การก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงาน น้ำและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งอิเล็คโทรนิค โดยกลุ่มบริษัทโซลเวย์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม และมีพนักงานประมาณ 30,000 คน ใน 55 ประเทศทั่วโลก ในปี 2553 กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งสิ้น 12 พันล้านยูโร และเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Euronext กรุงบรัสเซลส์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.solvay.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณภรณี กองอมรภิญโญ ดาว เคมิคอล ประเทศไทย โทร. 02-365-7186 อีเมล kporanee@dow.com คุณเสาวภา สุคันธี/ คุณขวัญตา หน่อคำ ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ประเทศไทย โทร.02-627-3501 ต่อ191 / 107 อีเมล ssukuntee@hkstrategies.com / knorkum@hkstrategies.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ