สธ. เผย ปัญหาครอบครัว ปัญหายอดฮิต สายด่วน 1323 แนะ ใช้เวลาให้คุ้มค่า

ข่าวทั่วไป Thursday April 12, 2012 14:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--กรมสุขภาพจิต นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน "บ้านอุดมสุข...ความสุขสร้างได้" ณ โรงพยาบาลศรีธัญญา โดยกล่าวว่าครอบครัว คือ สถาบันมูลฐานของมนุษย์ เป็นหน่วยขนาดเล็กที่สุดของสังคมแต่มีความสำคัญที่สุดของสังคม ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาวหลายวันถือเป็นโอกาสดีที่ครอบครัวจะได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้นกว่าปกติเพราะตามปกติในยุคปัจจุบัน แต่ละครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยลงโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ และในกรุงเทพมหานคร การใช้เวลาอยู่ร่วมกันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคน ในครอบครัวควรคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลาเพราะการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน คือ การสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวช่วยทำให้มีความรักความผูกพันกันมากยิ่งขึ้นรมช.สธ. กล่าวต่อว่าการที่ครอบครัวไทต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรอบด้านส่งผลให้เกิดความสั่นคลอนของสถาบันรอบครัว ทั้งปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งผู้สูงอายุถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ปัญหายาเสพติดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาการฆ่าตัวตาย ฆ่าผู้อื่น ปัญหาการหย่าร้าง ซึ่งจากรายงานของกรมสุขภาพจิตเกี่ยวกับการให้บริการปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต1323 พบว่า ปัญหาครอบครัว เป็นปัญหาลำดับต้นๆที่ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษา ซึ่งปีที่ผ่านมา อยู่ในลำดับ 3รองจากปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวช และยังพบว่ามีจำนวนประชาชนขอรับบริการเพิ่มขึ้นจากปี 2553 เกือบพันราย (ปี 2553ขอรับบริการ 3,674 ราย ปี 2554 ขอรับบริการ 4,632 ราย)ปัญหาที่โทรเข้ามาปรึกษา ได้แก่ ปัญหาคู่ครองนอกใจ ความไม่เข้าใจกันลูกติดยา เสพติด ติดเกม ติดเพื่อน เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มอายุที่โทรเข้ามาขอรับบริการปรึกษาปัญหาครอบครัวนอกจากจะเป็นวัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 25-59 ปีแล้ว กลุ่มเด็กและวัยรุ่นเป็นกลุ่มรองลงมาที่โทรเข้ามาขอรับบริการปรึกษาปัญหาครอบครัวคิดเป็นอัตราส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ต่อกลุ่มเด็กและวัยรุ่นประมาณ 5:1 และขอรับบริการปรึกษามากกว่าผู้สูงอายุซึ่งปัญหาที่เด็กและวัยรุ่นโทรเข้ามาได้แก่ความคาดหวังของผู้ปกครองต่อการเรียนของเขาการไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับการคบเพื่อนหรือการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน รมช.สธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ส่วนหนึ่งมาจากการไม่มีเวลาให้แก่กันอย่างไรก็ตาม บ้านเราด้วยวัฒนธรรมแบบไทยๆความสัมพันธ์ในระบบครอบครัวยังคงมีความสำคัญอยู่ แม้จะดูห่างออกไปบ้างแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมาเริ่มสร้างกันใหม่ไม่ได้ขอเพียงใช้เวลาที่อยู่ร่วมกันให้มีคุณค่ามากที่สุดเพื่อสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัวอาจเริ่มง่ายๆ โดย 1. สื่อสารกันในครอบครัว เช่น การได้พูดคุยกัน 2-3 คำ หรือการใช้คำพูดบางคำที่ทำให้รู้สึกถึงความห่วงใยที่มีต่อกัน หรือแม้ไม่พูดแต่แสดงความรักกันด้วยการสัมผัส หรือการกอดก็สื่อถึงความรักความผูกพันและความสุขที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละวันแล้ว 2. ออกแบบและทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกัน เช่น ดูทีวีด้วยกันทำงานบ้านร่วมกัน ค้นหาเรื่องราวต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตด้วยกันไปกราบคุณปู่คุณย่าด้วยกัน เล่นกีฬาด้วยกัน ทำอาหารรับประทานร่วมกันทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน ทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกันหรือแม้แต่การช่วยแก้ปัญหาให้กันและกันก็จะทำให้เวลาที่อยู่ร่วมกันมีคุณค่าแล้ว ทั้งนี้ควรจัดสรรเวลาและคงความสม่ำเสมอเพื่อให้การใช้เวลาอยู่ร่วมกันของครอบครัวมีคุณค่าและสร้างความสุขทางใจให้แก่กันและกันมากที่สุด นอกจากครอบครัวทั่วไปที่ควรใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณค่าเพื่อสร้างความรักความผูกพันและความสุขให้เกิดขึ้นแล้วครอบครัวผู้ป่วยจิตเวชเองก็สามารถสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกันโดยเฉพาะครอบครัวผู้ป่วยโรคจิตจากสารเสพติด ที่สำคัญ คือ ยาบ้า ซึ่งในรอบ3 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นสถานการณ์ข่าวผู้เสพยาบ้าก่อความรุนแรงขึ้นในสังคม ล่าสุด คือ การจี้ภรรยาเป็นตัวประกัน เป็นต้น ทั้งนี้ผู้เสพติดยาบ้าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดที่จะเกิดอาการโรคจิตเมื่อเปรียบเทียบกับสารเสพติดอื่นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ความคิดหวาดระแวง อาจเพียงสงสัย ระแวดระวังรู้สึกว่ามีคนคอยเฝ้ามองหรือติดตามตัวเอง พูดพาดพิงถึงจนถึงมีอาการหลงผิด ประสาทหลอน โดยอาการจะเป็นๆ หายๆ เป็นพักๆหากยังคงเสพไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอาการโรคจิตจะเด่นชัดขึ้นเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างเฉียบพลันหรือมีการทำร้ายตนเอง ทำร้ายผู้อื่นนอกจากนี้ อาจพูดน้อย เชื่องช้าและสีหน้าไร้อารมณ์ซึ่งอาการทางจิตในผู้ป่วยแต่ละรายจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณ ความถี่และระยะเวลาที่เสพ ยิ่งเสพหนักเป็นเวลานานยิ่งพบอาการโรคจิตรุนแรงและหากอดนอนจะยิ่งทำให้เกิดอาการโรคจิตง่ายและรุนแรงมากขึ้นระยะเวลา ที่เริ่มมีอาการมักเกิดภายหลัง 2-5 ปี หลังการเสพติดสำหรับผู้เสพยาบ้าเรื้อรัง ยังพบปัญหาสุขภาพจิตอื่นร่วมด้วย อาทิภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและพยายามฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ การรักษายิ่งรักษาเร็ว ก็จะหายเร็ว หากเสพไม่นาน มักใช้เวลารักษาประมาณ 1-2สัปดาห์ ซึ่งมีโอกาสหายได้ แต่หากเรื้อรังต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 2เดือนในการรักษาและต้องไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปเสพหรือได้รับสารกระตุ้นอีกรวมทั้งทานยาตามที่แพทย์สั่ง ดังนั้นครอบครัวและชุมชนจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งที่จะช่วยดูแลผู้ป่วยให้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวและชุมชนอย่างปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น ติดต่อ: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 88/20 หมู่ 4 ถนนติวานนท์ 4 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 Tel. 0-2149-5555-60 www.dmh.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ