“กลัวจัง กลัวจัง” จากนิทานสอนหลานย่า สู่โครงการ 10 ปี หนังสือดีเพื่อเด็ก

ข่าวทั่วไป Tuesday April 17, 2012 17:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--แปลน ฟอร์ คิดส์ “ความกลัวเป็นเรื่องธรรมดา เราจะกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้จัก เกรงจะทำให้เราเจ็บและเป็นอันตราย” เพียงจุดเริ่มต้นของการสังเกตพฤติกรรมการกลัวฟ้าฝนของน้องโซดาและน้องเซน หลานย่าที่น่ารักทั้งสอง คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนหนังสือนิทานสอนวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ให้กับเด็ก นอกจากจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้อธิบายให้หลานตัวเองฟังแล้ว ยังเป็นการเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับเด็กคนอื่นด้วย จากแนวคิดนี้เองทำให้ กลัวจัง กลัวจัง นิทานของหลานย่า ได้กลายมาเป็นนิทานลำดับที่ 6 ในโครงการ 10 ปี หนังสือดีเพื่อเด็ก จัดโดยมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและบริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ซึ่งได้ฤกษ์เปิดตัวอีกครั้งเมื่องานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ผ่านมา หลังจากที่มูลนิธิฯ ประสบความสำเร็จไปแล้วจากนิทานเรื่อง หิวจัง หิวจัง ผลงานของ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา มดมหัศจรรย์ ผลงานของ คุณหญิงรัชนีวรรณ วัฒนชัย แป้งร่ำทำสวน ผลงานของ อ.พรอนงค์ นิยมค้า ไออุ่น ผลงานของ รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ และกระรอกหน้าบึ้งกับผึ้งเบิกบาน ผลงานของ เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ในฐานะประธานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และผู้เขียนนิทานเรื่องนี้กล่าวว่า “กลัวจัง กลัวจัง เกิดขึ้นจากหลานที่เขาเริ่มกลัวเสียงฟ้าร้อง กลัวความมืด กลัวคนแปลกหน้า เราก็เลยคิดว่าเอาประเด็นเหล่านี้มาผูกกัน พยายามอธิบายว่าเรื่องความกลัวมันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด ใครๆ ก็กลัวกันทั้งนั้น ผู้ใหญ่เองยังกลัวได้เลย พอเราพูด ก็สังเกตว่าเขาจะไม่ค่อยฟัง แต่ถ้าเราใช้หนังสือ เขาจะสนใจ คิดตาม ทำให้ความกลัวของหลานค่อยๆ หายไป หนังสือเป็นเพียงบันไดขั้นต้น ที่ผู้ใหญ่สามารถต่อยอดอะไรต่อมิอะไรลงไปในหนังสือได้มากมาย พ่อแม่ควรเป็นผู้นำในการอ่านหนังสือ อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน สร้างบรรยากาศ โดยเราเป็นตัวอย่างที่ดี มีหนังสือที่สนุกๆ แล้วก็ทำบรรยากาศของการอ่านให้เป็นความสุข ไม่ใช่เรื่องของการสอน” เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก กล่าวว่า “พ่อแม่เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของเด็กทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการกิน การอยู่ เราอยู่กับเด็ก แค่รักอย่างเดียวไม่รอด ต้องรู้ด้วย หนังสือเป็นตัวช่วยที่ดี ที่สามารถสอนเด็กได้ทุกเรื่อง นิทานเรื่องกลัวจัง กลัวจัง สามารถตอบคำถามความต้องการของเด็กในวัยนี้ได้ครบถ้วน เด็กทุกคนต้องการความรัก เด็กๆ ต้องการความเข้าใจ การกลัวในสิ่งที่ไม่รู้เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะฉะนั้นเราต้องตอบคำถามและให้เหตุผลกับเด็ก เพราะการตอบคำถามคือการเติมเด็กให้เต็มทีละน้อย สองข้อนี้คือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการวางรากฐานชีวิตของเด็ก เด็กในวัยนี้เขามีประสบการณ์น้อย อะไรที่ยังไม่เคยเจอ ไม่คุ้นเคย เขาจะกลัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเหตุผล แต่เพียงเพราะว่าเขาไม่รู้ เราต้องยอมรับและอธิบายให้เข้าใจได้ ไม่เคยมีห้องเรียนไหนที่สอนชีวิตเด็ก แต่นิทานเรื่องนี้เป็นหนังสือที่ใช้ชีวิตสอนชีวิต นั่นคือสิ่งที่ชีวิตต้องการมากกว่าวิชาทั่วไป” กลัวจัง กลัวจัง ไม่ได้เป็นเพียงแค่นิทานที่สอนเรื่องความกลัวและความรู้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสอดแทรกเรื่องความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว อีกทั้งยังแฝงเรื่องการแบ่งบทบาทหน้าที่ภายในครอบครัวอีกด้วย ริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ในฐานะบรรณาธิการกิจและผู้จัดพิมพ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เรื่องนี้เหมาะสำหรับการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเด็ก ต้องบอกว่าหนังสือในกลุ่มนี้มีน้อยมากในบ้านเรา โดยเฉพาะหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยที่จะสอดแทรกเรื่องของวิทยาศาสตร์ เพราะเวลาที่เด็กเขากลัว เขาจะผวา ถ้าเราใส่ความรัก ความเข้าใจเข้าไปได้ทันเวลา เด็กคนนี้จะมีต้นทุนที่ดี วันข้างหน้า หากเขาเจอปัญหา หรือเจอความกลัวอะไรก็ตาม เขาจะแก้ไขปัญหาได้อย่างมีเหตุผล และมีความเชื่อมั่นในตนเอง” ถึงแม้ในหนังสือนิทานจะไม่มีหน้าสุดท้ายที่บอกว่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แต่ก็ไม่ทำให้คุณค่าของการอ่านหมดไป เพราะคำสอนที่แฝงอยู่ ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว เด็กจะตระหนักได้เองว่าหนังสือสอนอะไร เด็กจะเรียนรู้จากเรื่องราวต่างๆ แล้วเมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับชีวิต เขาจะใช้ความรู้และประสบการณ์จากตรงนั้น มาแก้ไขปัญหาชีวิตเขาเองได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ