กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบหลักทุกชนิดลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 6.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลอยู่ที่ 96.99 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 4.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 112.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 6.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 109.01 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยปรับตัวลดลง 6.99 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 124.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลเฉลี่ยปรับตัวลดลง 6.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 124.97 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงานยอดสินค้าคงคลังของผู้ขายส่ง (Wholesale Inventories) ประจำเดือน มี.ค. 55 ลดลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 0.3%
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ค.55 เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 379.5 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 22 ปี
- The British Retail Consortium ของอังกฤษรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ประจำเดือน เม.ย. 55 ลดลง 4.6% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ระดับ -3.3%
- OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบประจำเดือน เม.ย. 55 เพิ่มขึ้น 0.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.33% จากเดือนก่อน อยู่ที่ระดับ 31.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- กรมศุลกากรของจีนรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. 55 ลดลง 2.3% จากเดือนก่อน อยู่ที่ระดับ 5.42 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- Bloomberg คาดการณ์ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือน เม.ย. 55 เพิ่มขึ้น 9.3% จากปีก่อนหน้า ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- International Energy Agency (IEA) คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2555 อยู่ที่ระดับ 90.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อน 20,000 บาร์เรลต่อวัน และเมื่อเทียบกับปี 2554 การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2555 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+0.9% จากปีก่อนหน้า)
- กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ค. 55 ลดลง 1,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 367,000 ราย
- ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Seaway (1.5 แสนบาร์เรลต่อวัน) เริ่มเปิดดำเนินการขนส่งน้ำมันจากเมือง Cushing รัฐ Oklahoma มายังเมือง Houston รัฐ Texas ส่งผลให้มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง และมีน้ำมันดิบชนิดกำมะถันต่ำขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ประจำเดือน มี.ค. 55 เพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนก่อน
- Federal Statistics Office ของเยอรมนีรายงานมูลค่าการส่งออกประจำเดือน มี.ค. 55 เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
- Reuters รายงานอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านในเดือน เม.ย. 55 ลดลง 34% จากเดือนก่อน อยู่ที่ระดับ 0.269 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ที่ 14 - 18 พ.ค. 55
ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากการเทขายของนักลงทุน ล่าสุด CFTC ของสหรัฐฯ รายงานสถานการณ์การลงทุนในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์ก สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. 55 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับลดการซื้อสุทธิ (Net Long Positions) ของสัญญาน้ำมันดิบ WTI ลง 81,674 สัญญาจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 153,725 สัญญา ทั้งนี้อุปทานน้ำมันดิบโลกในเดือน เม.ย. 55 อยู่ที่ระดับ 91 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 6 แสนบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าในปี 2554 ที่ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC ที่เพิ่มขึ้น และปริมาณสำรองน้ำมันกลุ่มประเทศ OECD ในเดือน มี.ค. 55 เพิ่มขึ้น 13.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าปริมาณสำรองเฉลี่ย 5 ปี เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค. 54 และเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 0.5 วัน มาอยู่ที่ระดับ 60.3 วัน อย่างไรก็ตาม IEA ระบุถึงปัจจัยพื้นฐานตลาดน้ำมันในปี 2555 ยังคงไม่แน่นอน และความเสี่ยงทางด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงทำให้ราคาน้ำมันดิบทรงตัวอยู่ในระดับสูง และคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2555 อยู่ที่ระดับ 90 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อน 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน และเมื่อเทียบกับปี 2554 โลกจะมีอัตราการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันในปี 2555 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+0.9% จากปีก่อน) ในระยะสันคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 109-113 USD/BBL และ 93-97 USD/BBL ตามลำดับ