วธ.บูรณะโบราณสถานในพื้นที่จังหวัดน่าน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

ข่าวทั่วไป Thursday May 17, 2012 11:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆนี้ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการเดินทางตรวจเยี่ยมการบูรณะโบราณสถานในพื้นที่จังหวัดน่าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พบว่าพระวิหารวัดพระธาตุแช่แห้งที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อดำเนินโครงการบูรณะโบราณสถานในส่วนของวิหารพระนอนได้ดำเนินการบูรณะเสร็จสิ้นแล้ว สำหรับพระวิหารหลวงจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 นี้ ซึ่งการบูรณปฏิสังขรณ์ได้ดำเนินการซ่อมแซมเปลี่ยนวัสดุที่เสื่อมสภาพออกในส่วนของผนังและโครงหลังคา สำหรับกำแพงเมือง คูเมืองน่าน บริเวณชุมชนวัดพญาวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนของสภาพพื้นที่โดยรอบและเหตุอุทกภัย ที่ทำให้กำแพงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ได้ดำเนินการเชิญภาคประชาชนและบุคลากรจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและท้องถิ่นร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและร่วมหาแนวทางในการพัฒนากำแพงเมือง คูเมืองน่าน ทำให้สามารถขอความร่วมมือให้มีการรื้อถอนอาคารสิ่งก่อสร้างบริเวณใกล้เคียงหรือทับซ้อนพื้นที่กำแพงเมือง คูเมืองน่านได้บางส่วน โดยจะดำเนินการบูรณะแล้วเสร็จในวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 ในส่วนของวิหารวัดภูมินทร์ สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน และสำนักโบราณคดี ได้ร่วมกันจัดทำโครงการอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรมที่ติดภายในวิหารวัด ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 23 มีนาคม 2555 และในส่วนโครงสร้างที่เกิดการทรุดตัวของผนังและโครงหลังคา ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อใช้ในการบูรณะ ก็จะแล้วเสร็จในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 นางสุกุมล คุณปลื้ม (รมว.วธ) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีการบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารวัดบุญยืนที่มีอายุกว่าสองร้อยปี ได้มีประชาชนเดินทางมามอบหนังสือร้องเรียนต่อกระทรวงวัฒนธรรมว่า สำนักศิลปากรที่ 7 น่านและวัดบุญยืนได้ร่วมกันซ่อมแซมพระวิหารโดยกะเทาะปูนปั้นที่มีภาพวาดออก ทำให้ประชาชนเกรงว่าภาพวาดเก่าแก่จะไม่สามารถซ่อมแซมได้เหมือนเดิม ซึ่งทางสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องกะเทาะปูนปั้นที่มีภาพวาดออก เนื่องจากประสบปัญหาความชื้นสูง ทำให้ชั้นอิฐซึ่งเป็นโครงสร้างของผนังเสื่อม มีความจำเป็นต้องซ่อมแซมเพื่อรักษาพระวิหารโดยรวมไว้ อีกทั้งภาพวาดบนฝาผนังเป็นภาพวาดที่เขียนขึ้นใหม่ จึงต้องดำเนินการให้กลับคืนสภาพเป็นพระวิหารที่มีไว้ดั่งเดิมเมื่อสองร้อยปีก่อน ส่วนกรณีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นการดำเนินการโดยพละการของทางวัดบุญยืน ภายหลังการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ซึ่งพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฯ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ให้ผู้ที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือกระทำการใดๆต่อโบราณสถานต้องขออนุญาตอธิบดีกรมศิลปากรก่อน ทั้งนี้กรมศิลปากรจะเร่งดำเนินการเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียด รวมทั้งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนในการสังเกตการณ์ซ่อมแซมพระวิหารด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ