กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ปตท.
ปตท. - ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต - อีอีซี ลงนามบันทึกความเข้าใจการศึกษาความเป็นไปได้โครงการติดตั้งระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติ ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงการศึกษาความเป็นไปได้โครงการติดตั้งระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติ ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต (Gas District Cooling and Cogeneration) เพื่อใช้ในอาคารศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด (ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต) และ บริษัท เอ็นไวรอนเมนตอล เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด (อีอีซี) โดย นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. เป็นผู้ลงนาม ร่วมกับ นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด และ นายเกชา ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีอีซี จำกัด
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า โครงการติดตั้งระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติ (Gas district Cooling and Cogeneration) นี้ เป็นการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติ เพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าและนำพลังงานความร้อนที่เหลือจากการผลิตไฟฟ้ามาผลิตน้ำเย็นสำหรับระบบปรับอากาศ
ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต นับว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศที่มีแนวคิดในการนำระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติมาใช้ในอาคาร และเป็นลำดับที่สองต่อจากสนามบินสุวรรณภูมิ ปตท. และ บริษัท อีอีซี ได้เสนอโครงการดังกล่าวนี้ให้แก่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประหยัดค่าพลังงาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการใช้พลังงานของประเทศ ซึ่งภายหลังจากการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ปตท. และ บริษัทอีอีซี จะจัดทำรายละเอียดการศึกษาโครงการเสนอต่อ บริษัท รังสิต พลาซ่า ภายใน 4 เดือน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจต่อไป
สำหรับรายละเอียดของโครงการฯ นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาท ในระยะแรกจะมีกำลังการผลิตความเย็น 2,250 ตัน และกำลังผลิตไฟฟ้า 4.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้ก๊าซธรรมชาติประมาณ 6 แสนลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจะขยายเป็น 1.2 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในระยะที่สอง และจากโครงการดังกล่าวจะทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานหรือก๊าซธรรมชาติได้สูงถึง 80% ส่งผลให้ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อไฟฟ้าและน้ำเย็นได้ประมาณปีละ 20-30 ล้านบาท
นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด กล่าวว่า ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีปริมาณลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 130,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี บริษัทฯ จึงศึกษาหาแนวทางและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้งานภายในอาคาร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อผู้เข้ามาใช้บริการและศูนย์การค้า ฯ มากที่สุด รวมทั้งต้องไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ด้วย
โครงการติดตั้งระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาตินี้ จะช่วยลดปริมาณกระแสไฟฟ้าที่บริษัทนำมาใช้งานลงได้ปีละประมาณ 20 - 30 ล้านบาท เนื่องจากศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ล้วนเป็นหน่วยงานที่มีปริมาณการใช้งานของกระแสไฟฟ้ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งหากการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าพลังงานให้กับผู้ใช้แล้ว ยังเป็นการสนองนโยบายของภาครัฐบาลในการช่วยกันประหยัดพลังงาน ท่ามกลางสภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นพลังงานทางเลือกที่ควรศึกษาต่อไป ซึ่งทาง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต รู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องระดับประเทศ
นายเกชา ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีอีซี จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ในฐานะบริษัทวิศวกรรมชั้นนำของไทยและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงานและได้พัฒนาระบบ Green Integrated Energy System หรือ GIES สำหรับการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 80 % เห็นว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์กับศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อย่างคุ้มค่า และจะเป็นตัวอย่างให้กับโครงการอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันต่อไป ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์โดยรวมจากการใช้พลังงานที่สะอาด มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเกิดมลภาวะน้อยที่สุด
ปัจจุบัน โครงการติดตั้งระบบทำความเย็นและผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ มีการใช้งานในกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นและอาคารสำนักงาน เนื่องจากเป็นระบบที่สร้างความมั่นคงในการจัดหาพลังงาน ประหยัดค่าพลังงานให้กับผู้ใช้ และลดมลภาวะทางอากาศ ซึ่งหากโครงการที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต สามารถดำเนินการได้สำเร็จแล้ว จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปขยายการใช้งานไปยังกลุ่มอาคาร โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางค้าขนาดใหญ่ และเมืองใหม่ที่มีระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ยังสามารถนำไปเผยแพร่หรือร่วมทุนยังประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนานำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ด้วย
บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2537-3217 โทรสาร 0-2537-3211
บริษัท อีอีซี จำกัด โทรศัทพ์ 0-2642-1200
บริษัท รังสิต พลาซ่า จำกัด โทรศัพท์ 0-2958-0011 ต่อ 1075--จบ--
-นท-