กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--เวิรฟ
ปัจจุบัน กระแสรักสุขภาพขยายวงกว้างมากขึ้นทุกที ผู้คนทั่วโลกต่างพากันหันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ตามความชอบ หนึ่งในกีฬาสุดคลาสสิคซึ่งยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนส่วนใหญ่คือกีฬาวิ่ง เพราะเป็นกีฬาที่ง่าย สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเวลา และทุกสถานที่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการเล่นกีฬาทุกประเภท ก็คือ การเตรียมตัวที่ดี ซึ่งรวมถึงการวอร์มอัพร่างกายก่อนวิ่ง การตรวจสอบสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม ตลอดจนการเลือกอุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมกับสรีระอย่างรองเท้าวิ่งคู่ใจสักคู่ ที่สามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงจากการบาดเจ็บ รวมถึงการมอบประสบการณ์การวิ่งที่ราบรื่น เบาสบาย จนคุณสามารถได้รับประโยชน์จากการวิ่งในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่
ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมกีฬาระดับโลกมาอย่างยาวนาน ไนกี้ (Nike) ในวันนี้ยังคงยืนยันเจตนารมณ์และความตั้งใจในการรับฟังความต้องการของนักกีฬาและพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมให้นักกีฬาสามารถแสดงศักยภาพขีดสุดของตนเองออกมาทั้งยามฝึกซ้อมและลงสนามแข่งขัน ด้วยต้นกำเนิดของแบรนด์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกจากกีฬาวิ่งเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ทำให้ไนกี้มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความเป็นผู้นำในโลกแห่งเทคโนโลยีกีฬาวิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดตัวเทคโนโลยีไนกี้ ฟรี ในปีคศ. 2002 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการกีฬาวิ่งทั่วโลก ในฐานะสุดยอดเทคโนโลยีที่เน้นเลียนแบบธรรมชาติการวิ่งของมนุษย์ ซึ่งต่อมาแบรนด์อื่นๆ ได้ดำเนินรอยตามแนวคิดนี้ตามแบบไนกี้เช่นเดียวกัน
ปริตต์ เรืองวิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ไนกี้ บริษัท ไนกี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีไนกี้ฟรีว่า รองเท้าไนกี้ฟรี เปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 โดย มิสเตอร์โทบี้ แฮทฟิลด์ ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของรองเท้าวิ่ง ด้วยความพิเศษของเทคโนโลยีของไนกี้ฟรีเน้นเลียนแบบธรรมชาติการวิ่งของมนุษย์ ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อเท้าแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอันเนื่องจากการเลียนแบบสภาพการวิ่งด้วยเท้าเปล่า จึงช่วยเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงการบิด และการยืดหยุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยสร้างความสมดุลของเท้าในทุกๆ ท่วงท่าของการเคลื่อนไหว
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รองเท้าในตระกูลไนกี้ ฟรี ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางตลาดรองเท้ารุ่นใหม่ๆหลายต่อหลายรุ่น จนมาถึง ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) นวัตกรรมรองเท้าวิ่งใหม่ล่าสุดสำหรับฤดูร้อนปี 2012 เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีเทคโนโลยีไนกี้ ฟรี รัน โดยรองเท้าวิ่งเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดในตระกูล ฟรี รันนี้ได้รับการยอมรับจากนักกีฬาระดับโลกว่าสามารถเพิ่มสมรรถภาพความแข็งแกร่ง ในขณะที่ยังคงรักษาความสมดุลของเท้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นายปริตต์ กล่าวต่อว่า ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) โดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีที่ช่วยให้เท้าเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นยามวิ่งหรือเดิน จากการผสานเทคโนโลยีเฉพาะตัวของไนกี้อย่าง ไดนามิค ฟิต (Dynamic Fit) ที่สามารถโอบกระชับส่วนเว้าของเท้าได้อย่างแนบสนิท รวมถึงหน้ารองเท้าแบบไร้รอยเชื่อมต่อ จึงให้การรองรับเท้าได้ในส่วนที่จำเป็นแม้จะมีน้ำหนักเบา โครงสร้างเช่นนี้ยังให้การระบายอากาศที่ดี สวมสบายและแนบกระชับเสมือนเป็นผิวหนังอีกชั้นหนึ่งของเท้า พร้อมทั้งช่วยปรับปรุงการเคลื่อนไหวของส้นเท้าให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และเส้นบากแนวทแยงซึ่งตัดผ่านส่วนเว้าของเท้าในบริเวณถัดจากกระดูกส้นเท้าเสมือนการวิ่งด้วยเท้าเปล่า
ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) ได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นจากวัสดุชั้นดีเพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างอิสระเป็นธรรมชาติ ไร้กังวล โดยพื้นโฟมรองเท้าชั้นกลางที่มอบความนุ่มนวลในการวิ่งมีความแข็งแรงมากพอที่จะรับอีกหน้าที่หนึ่งในการเป็นพื้นรองเท้าชั้นนอก ซึ่งช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรองเท้าลงได้อย่างมาก ร่องตามแนวยาวและแนวขวางของพื้นรองเท้าชั้นกลางช่วยเสริมความยืดหยุ่นและรักษาความมั่นคงของเท้าในขณะวิ่ง
ในขณะที่แผ่นรองเท้าชั้นในเพรียวบางและขึ้นรูปให้รับกับส่วนโค้งเว้าของเท้าเพื่อมอบความกระชับที่ดีเยี่ยม พื้นรองเท้าชั้นนอกลายวาฟเฟิลเสริมการยึดเกาะและความทนทาน และยังช่วยให้จังหวะดีดปลายเท้ามีความเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นพื้นซีเมนต์ พื้นยางมะตอย ฯลฯ แถบยางเนื้อแข็งที่ตำแหน่งนิ้วกลางของเท้าเพื่อความทนทานและการยึดเกาะที่ดี นอกจากนี้ ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) ยังใช้ระบบเชือกรองเท้าแบบสมมาตรวางแนวร้อยเชือกให้เอียงเพื่อช่วยลดแรงกดบนหลังเท้า จึงช่วยเสริมความยืดหยุ่นเพื่อการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติและช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเท้า นับว่าเป็นผู้ช่วยมือโปรที่ช่วยให้การเคลื่อนในทุกท่วงท่าของการออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างธรรมชาติที่สุด
ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้เอง จึงทำให้ ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการออกกำลังกายทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเล่นฟิตเนส การตีเทนนิส หรือแม้แต่การเล่นบาสเก็ตบอล
ปู — กัญ คูสุวรรณ นักกีฬาทีมชาติไทย กล่าวว่า “กีฬาวิ่ง จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดหรือไม่นั้น ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ รองเท้าวิ่งคู่ใจเพราะต้องใช้ฝึกซ้อมอยู่เสมอ รองเท้าวิ่งที่ดีควรยืดหยุ่นแต่กระชับ เบา สวมใส่สบาย อย่าง ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี ที่มีความยืดหยุ่นแต่กระชับรูปเท้าได้อย่างพอดี ทำให้ขยับเท้าได้ดั่งใจและวิ่งได้อย่างอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น และยังมอบการเคลื่อนไหวอย่างอิสระเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อเท้าของเราให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นับว่าการช่วยเตรียมความพร้อมให้กับการแข่งขันในทุกๆ สนาม ทำให้สถิติการวิ่งดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นอกจาก ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) แล้วสำหรับฤดูร้อนปี 2012 ไนกี้ ยังได้เผยโฉมรองเท้าวิ่งอีก 2 รุ่นคือ ไนกี้ ฟรี 4.0 และไนกี้ ฟรี 3.0 วี 4 ซึ่งเป็นรองเท้าที่ได้รับการออกแบบโครงสร้างขึ้นใหม่และส่วนเว้าของเท้าที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งจะช่วยมอบประสบการณ์ในการวิ่งที่ได้ใกล้เคียงเป็นที่สุดกับการวิ่งด้วยเท้าเปล่าอย่างแท้จริง
พบกับประสบการณ์การเคลื่อนไหวอย่างไร้ขีดจำกัดกับ ไนกี้ ฟรี รัน พลัส ทรี (Nike Free Run+ 3) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคา 4,000 และ 4,300 บาท ที่ร้านไนกี้ ชั้น1 สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 1 เทอร์มินอล 21 ไนกี้ คอร์เนอร์ สยามพารากอน เดอะมอลล์ บางแค เดอะมอลล์ บางกะปิ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ nikerunning.in.th