สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 23, 2012 10:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,639 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,641 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.40 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,250 บาท กับ 24,350 บาท และกลับมาปิดที่ 24,250 บาท กับ 24,350 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 6,395 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 16,230 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 95 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 9% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.8% Silver Futures เพิ่มขึ้น 6% GFQ12 ปิดที่ 24,470 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,580 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,470 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,560 บาท SVQ12 ปิดที่ 927 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 2.4 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,640 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 12.80 เซนต์ ปิดที่ระดับ 29.55 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,281.97 ตัน (ซื้อเข้า 3.01 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ระดับ 97.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 30.82 จุด ปิดที่ระดับ 13,172.76 จุด Ratio Gold / Silver 56 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1,650 เหรียญได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ฝ่ากรอบการเคลื่อนไหว 1,600 — 1,625 เหรียญได้ ไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,658.20 เหรียญ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการรายงานผลการประชุมของ FOMC เพิ่มความคาดหวังให้กับนักลงทุนในทองคำมากขึ้นว่า อาจมีการใช้มาตรการ QE3 ในเร็วๆ นี้ รวมไปถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่คาด ซึ่งก่อนหน้าการรายงานผลการประชุม FOMC สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 2.4 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,640.5 เหรียญ/ออนซ์ ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 130,000 ล็อต ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน และ 250 วัน แรงขับเคลื่อนหลักของราคาทองคำในระยะ 2 วันมานี้มาจากการรายงานของสื่อเยอรมนีที่ระบุว่า อีซีบีมีแนวโน้มที่จะทำการกำหนดเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนและอิตาลี ซึ่งในทางโต้ตอบกลับ อีซีบีระบุว่า การรายงานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบใน “การตัดสินใจในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น” สแตนดาร์ด แบงก์กล่าวว่า กลุ่มโลหะมีค่ายังคงได้รับแรงสนับสนุนที่ดีจากแรงเข้าซื้อ ซึ่งเทรดเดอร์ต่างๆ กลับเข้าสู่ตลาดจากการ breakout ของราคาเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ปริมาณการซื้อขายฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าตลาดดูเหมือนจะทรงตัวในช่วงค่ำคืนก่อนการแถลงผลการประชุม FOMC ซึ่งราคาทองคำและซิลเวอร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันและปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในรอบวัน กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นเมื่อวานนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมทั้งสิ้น 5.174 แสนล้านเยน โดยยอดการส่งออกเดือนกรกฎาคมหดตัวลง 8.1% รวมไปถึงการรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐออกมาที่ระดับ 4.47 ล้านยูนิตในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน แต่ต่ำกว่าการคาดการณ์ 50,000 ยูนิตซึ่งคาดว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4.52 ล้านยูนิต นอกจากนี้ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 สิงหาคมร่วงลงมากถึง 5.41 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 360.75 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล คอมเมิร์ซแบงก์ เอจี กล่าวว่า จากมุมมองทางเทคนิค ราคาใกล้ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,643 เหรียญอาจส่งผลให้เกิดการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง และเป็นการพยุงราคาทองคำ สำหรับปัจจัยทางพื้นฐาน บอมเบย์ บุลเลี่ยน แอสโซซิเอชั่น (BBA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการนำเข้าทองคำของอินเดียตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคมจะอยู่ที่ 200 — 250 ตัน ซึ่งหากการคาดการณ์ถูกต้อง ปริมาณการนำเข้าทองคำของอินเดียอาจลดลงมากถึง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ตลาดยุโรปจับตาการประชุมที่ประธานยูโร กรุ๊ป นายฌอง คล็อง จุงเกอร์เข้าเยือนกรีซเมื่อวานนี้ เช่นเดียวกันกับการประชุมในวันนี้ระหว่างนางอังเกลา แมร์เคล และนายฟรังซัวร์ ออลลองด์ในเยอรมนี โดยนายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซระบุว่ากรีซต้องการเวลามากขึ้นในการปรับลดค่าใช้จ่ายและเดิน หน้าปฏิรูปตามเงื่อนไขของการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ สำหรับการประชุมระหว่างนายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปและนายแอนโทนิส ซามาราสเมื่อวานนี้ นายจุงเกอร์ยังคงให้ความหวังแก่กรีซในเรื่องเวลาเพิ่มเติม เพื่อทำให้กรีซผ่านมาตรการรัดเข็มขัดไปให้ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินของกลุ่มทรอยก้า ที่ประกอบด้วยอียูและไอเอ็มเอฟ แต่มีการเตือนกรีซว่าเป็นโอกาสสุดท้ายในการที่จะหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย รายงานการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ระบุว่า สมาชิกจำนวนมากระบุว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจไม่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งอย่างมากและอย่างต่อเนื่องของอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การผ่อนคลายเพิ่มเติมอาจจะช่วยหนุนให้ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับในระหว่างช่วงการประชุมบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจตกต่ำลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ทางด้านนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแสดงสุนทรพจน์ในสัปดาห์หน้าในการประชุมสัมมนาทางเศรษฐกิจประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณแก่นักลงทุนถึงเจตนารมณ์ด้านนโยบายของเฟด ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไปของ FOMC มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 12-13 ก.ย. โดยตลาดคาดว่าอาจจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะรวมถึงการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน ผลสำรวจจากรอยเตอร์ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะออกมาตรการ QE3 เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาสู่ระดับ 60% รวมไปถึงกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์มีการลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าลงอีกด้วย นายสตีฟ ไลส์แมน นักข่าวเศรษฐกิจอาวุโสจากสำนักข่าว CNBC กล่าวว่า ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีการยกเว้นสัญญาที่ได้ให้ไว้ว่าจะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำจากปี 2014 — 2015 ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน ทั้งนี้ดูเหมือนว่ามาตรการ QE จะอยู่ในแผนการใช้งานเพื่อการปรับปรุงพัฒนาเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนก็คือเมื่อไหร่ที่จะเกิดการใช้มาตรการดังกล่าวขึ้น โดยอาจมีการใช้ QE3 ในการประชุม FOMC เดือนหน้าก็เป็นได้ และดูเหมือนว่าเหล่าผู้กำหนดนโยบายก็เข้าใกล้มาตรการนี้มากขึ้น กองทุนทองคำ SPDR สำรองทองคำเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 1,281.978 ตัน มีการซื้อเข้าเมื่อวานนี้อีก 3.016 ตัน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.37M ตัวเลขออกมาจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.47M - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -3.7M ตัวเลขออกมาจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -5.4M ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 366K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 365K - Flash Manufacturing PMI เดิมอยู่ที่ระดับ 51.4 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 51.3 - New Home Sales เดิมอยู่ที่ระดับ 350K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 363K วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำมีการซื้อขายอยู่ในช่วงแคบๆ ตลอดวันทำการของเมื่อวานจนปิดตลาด COMEX โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,635 — 1,642 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,640.5 เหรียญ โดยที่ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures เมื่อวานลดลงจากวันก่อนอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งโดยภาพรวมทั้งวันมีปริมาณการ ซื้อขายประมาณ 22,720 คู่สัญญา โดยเป็นขนาด 50 บาท 6,395 คู่สัญญา ขนาด 10 บาท 16,230 คู่สัญญา ซึ่งสรุปได้ว่า การซื้อขายในขนาด 10 บาท มีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 2.5 เท่าของขนาดใหญ่ จากเดิมที่ประมาณ 2 เท่า ก็หมายความว่านักลงทุนให้ความสนใจกับการซื้อสัญญาขนาด 10 บาทมากขึ้น โดยที่เมื่อวานไม่มีข่าวเศรษฐกิจที่เป็นเนื้อข่าวที่สำคัญ แต่หลังจากปิดตลาด COMEX ไปราคาทองคำและค่าเงินยูโรดีดขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุระดับ 1,643 เหรียญ ขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งเศษๆ จากการที่เล่นข่าวความคาดหวังว่า FOMC ที่จะประชุมในกลางเดือนหน้าอาจมีการใช้มาตรการ QE3 ซึ่งยังเป็นเพียงการคาดหวัง ทั้งนี้กองทุน SPDR ก็เข้าทำการซื้อทองเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3 ตัน คงที่ระดับ 1,281.98 ตัน โดยภาพรวมหลักก็ยังเป็นลักษณะของการเคลื่อนตัวไปในแนวโน้มขาขึ้นของราคา ทองคำอย่างชัดเจน ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวอย่างชัดเจนแล้ว โดยที่ราคาทองคำสามารถยืนอยู่เหนือทุกเส้นค่าเฉลี่ย และภาพรวมของเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ เริ่มเรียงตัวและตัดขึ้นในลักษณะ Golden Cross จึงคาดว่า ราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นสักระยะหนึ่ง เป้าหมายหลักถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,700 เหรียญ จึงแนะนำให้นักลงทุนปิดสถานะ Short position และเปิด Long position อย่างเดียวเท่านั้น Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,650 บาท Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,150 บาท Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 950 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับรายวันที่ระดับ 1,640 เหรียญ และมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,670 เหรียญ ค่าเงินบาทเองแข็งค่าขึ้นอย่างมากในเช้าวันนี้กว่า 15 สตางค์/ดอลลาร์ เช้านี้ตกลงมาที่ 31.26 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็จะมีส่วนกดดันราคาทองคำประมาณร้อยละ 20 บาท/บาททองคำ ทีเดียว นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ทยอยซื้อสะสม ถือครองพอร์ท 50% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ทยอยซื้อสะสม ถือครองพอร์ท 50% สรุป แนวโน้มราคาทองคำเป็นขาขึ้นให้เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นเท่านั้น Gold Future series Q จะหมดอายุในอีก 6 วัน แนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยน(Roll Over) ไปถือ series V โดยไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มใน Series Q และหาจังหวะปิด Series Q บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ