กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
จังหวัดมหาสารคาม จัดงานวันสาธิตการเพิ่มผลผลิตอ้อย หวังเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ได้ 15 ตัน เน้นการใช้พันธุ์ดี การปรับปรุงบำรุงดิน ระยะปลูก และการปลูกอ้อยในพื้นที่นาดอน
เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ที่ศูนย์เรียนรู้อ้อยชุมชนบ้านหนองแสง ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตร จังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานวันสาธิตการเพิ่มผลผลิตอ้อย โครงการส่งเสริมเพิ่มคุณภาพการผลิตอ้อย ปี 2555 ก่อนที่จะร่วมกันปล่อยแมลงหางหนีบ และแตนเบียนลงสู่แปลงอ้อย ซึ่งเป็นแมลงศัตรูธรรมชาติของศัตรูอ้อย ให้เพิ่มปริมาณในธรรมชาติ ซึ่งเป็นการกำจัดศัตรูอ้อยโดยชีววิธี การจัดงานภายใต้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัทเอกชนเน้นการแสดงสาธิตถึงผลการดำเนินงานของแต่ละส่วนที่ประสบผลสำเร็จให้แก่เกษตรกร เป้าหมาย กว่า 500 คนที่เข้าร่วมโครงการ จากอำเภอเมืองมหาสารคาม บรบือ นาเชือก เชียงยืน นาดูน โกสุมพิสัย กุดรังและอำเภอชื่นชม โดยแบ่งจุดสาธิตออกเป็น 6 จุด ประกอบด้วย จุดแสดงพันธุ์อ้อยและการจัดทำแปลงพันธุ์อ้อยพันธุ์ดี โดยสถานีทดลองและขยายพันธุ์อ้อยจังหวัดชัยภูมิ จุดสาธิตการบำรุงดูแลรักษาอ้อยและการเก็บเกี่ยวอ้อย เพื่อส่งโรงงานน้ำตาล โดยโรงงานน้ำตาลมหาวัง จุดการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อย โดยสถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม จุดสาธิตการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับชาวไร่อ้อย โดยบริษัทข้าวหวานมัน แมทชินเนอรี จำกัด จุดสาธิตการเตรียมดินโดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด และจุดสาธิตการป้องกันและกำจัดศัตรูอ้อยโดยชีววิธี โดยศูนย์บริหารศัตรูพืชจังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการ ของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม ได้กล่าวถึงแนวทางการเพิ่มผลผลิตอ้อยให้ได้ 15 ตันต่อไร ว่า..การเพิ่มผลผลิตอ้อยปัจจัยแรก เริ่มจากการใช้พันธุ์ดีไปปลูก ซึ่งมีพันธุ์ขอนแก่น 3 และพันธุ์อ้อยตระกูล เคต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีเพียงพอและเกษตรกรก็ใช้พันธุ์ดีอยู่แล้ว ปัจจัยสำคัญคือการเตรียมดิน ซึ่งขณะนี้ได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ซื้อไถบุกเบิกหรือผาน 3 ไว้พร้อมแล้ว และอีกปัจจัยหนึ่งทีมีความสำคัญคือระยะปลูกทำอย่างไรในพื้นที่ 1 ไร่จะปลูกอ้อยให้ได้ 64,000 ต้นๆละ 1 กิโลกรัม ก็จะได้ผลผลิตอ้อย 64 ตันต่อไร่ แต่ครั้งนี้ตั้งเป้าที่จะให้เกษตรกรจังหวัดมหาสารคามปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิต 15 ตันต่อไร่ ขยับจากผลผลิตเฉลี่ยของจังหวัด 8 ตันต่อไร่ นอกจากนี้ยังได้มีแนวทางที่จะส่งเสริมการปลูกอ้อยทดแทนนาดอน หรือที่นาเนื่องจากอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 สามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้จะมีน้ำท่วมขังเกือบถึงยอด ส่วนค่าความหวานของอ้อยจังหวัดมหาสารคาม ถืออยู่ในอันดับ 1 ของภาคอีสาน ปีที่ผ่านมามีค่าความหวานอยู่ที่ 12 ซี.ซี.เอส เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรหรือสนใจการปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตสูง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔