PJW มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังฮอตไม่แพ้โค้งแรก รับช่วงไฮซีซั่น-เครื่องจักรใหม่หนุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 24, 2012 13:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--IR network บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) โปรยเสน่ห์ครึ่งปีหลังทำผลงานดีกว่าครึ่งปีแรก ชูจุดยุทธศาสตร์เครื่องจักรใหม่หนุนรองรับออเดอร์ในส่วนของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกบรรลุตามเป้าหมายโดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 94.25 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 79.74 ล้านบาท “วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” มั่นใจดันผลงานทั้งปีโตมากกว่า 20-25% นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) เปิดเผยถึงทิศทางผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากพบว่าขณะนี้มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่มขึ้น จากครึ่งปีแรกตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์นม และน้ำมันหล่อลื่น “ปัจจัยที่ผลักดันให้ผลการดำเนินในครึ่งปีหลังของบริษัทเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมี ออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเครื่องจักรใหม่ที่บริษัทได้สั่งซื้อเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2555 ทำให้สามารถรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเต็มกำลัง จึงทำให้มั่นใจยอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้” นายวิวรรธน์กล่าว ทั้งนี้เชื่อว่าผลการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัท จะเติบโตมากกว่า 20-25% จากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 1,644 ล้านบาท พร้อมกันนี้บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 19-20% ด้วยกลยุทธ์การบริหารประสิทธิภาพการผลิต และการเติบโตในด้านยอดขายในธุรกิจหลักที่บริษัทดำเนินการอยู่ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น 62% ชิ้นส่วนยานยนต์ 14% บรรจุภัณฑ์นมเปรี้ยว 13% บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค 6% ที่เหลือเป็นบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตร 5% โดยบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นจะยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทในปี 2555 อนึ่งสำหรับผลประกอบการโดยรวมงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ปรากฎว่า มีกำไรสุทธิ 94.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 79.74 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2555 พบว่ามีกำไรสุทธิ 42.24 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.92 ล้านบาท สาเหตุที่ผลการดำเนินงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากยอดขายเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและอุตสาหกรรมยานยนต์ แบ่งเป็นดังนี้ ยอดขายกลุ่มน้ำมันหล่อลื่น เพิ่มขึ้น 13% , ยอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยว เพิ่มขึ้น 25% , ยอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภค-บริโภค เพิ่มขึ้น 10% , ยอดขายกลุ่มบรรจุภัณฑ์เคมีการเกษตร เพิ่มขึ้น 6% และยอดขายกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มขึ้น 59%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ