กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--วว.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามความร่วมมือกับ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดย สถาบันการแพทย์แผนไทย ในการร่วมกันวิจัยพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์การสกัดสารจากสมุนไพรระดับกึ่งโรงงาน ผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเวชสำอางจากสมุนไพรรวมถึงการทดสอบขั้นก่อนคลินิก ประเมินความปลอดภัย ตลอดจนศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ ผนึกกำลังยกระดับคุณภาพเครื่องมือและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เตรียมพร้อมก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมั่นใจ
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า วว. ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยสถาบันการแพทย์แผนไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การสกัดสารจากสมุนไพรระดับกึ่งโรงงาน ผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอางจากสมุนไพรรวมถึงการทดสอบขั้นก่อนคลินิก การประเมินความปลอดภัย และการศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ โดยมีระยะเวลาความร่วมมือเป็นเวลา 2 ปี
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้มีกรอบความร่วมมือสำคัญ 2 ส่วนหลัก คือ 1) ฝ่ายวิศวกรรม วว. และ สถาบันการแพทย์แผนไทย จะร่วมกันแลกเปลี่ยนพัฒนาเครื่องจักรในด้านหลักการทำงานของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต การสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรและเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทดสอบ รวมทั้งร่วมกันปรับปรุงเครื่องมือเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและความเหมาะสมมากขึ้น 2) ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว.และ สถาบันการแพทย์แผนไทย จะร่วมกันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอางจากสมุนไพรรวมถึงการทดสอบขั้นก่อนคลินิก (Pre-clinic), ประเมินความปลอดภัย (Safety Evaluation) และการศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ (Clinical Trial) ของผลิตภัณฑ์
“...วว. รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับสถาบันการแพทย์แผนไทย ในการผลักดันให้เกิดการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ยาจากสมุนไพรไทย รวมทั้งสถาบันฯ มีศูนย์พัฒนายาไทยและสมุนไพร มีเครื่องจักรแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรและเครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบที่ซับซ้อนและทันสมัย ที่พร้อมจะเป็นสถานที่สำหรับศึกษาพัฒนาเครื่องมือเครื่องจักร ทั้งนี้ผลจากความร่วมมือในวันนี้จะก่อให้เกิด เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร ได้ปรับปรุงพัฒนาเครื่องมือเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมให้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของสถาบันฯ และผู้สนใจอื่นๆ
นอกจากนี้ทั้งสองหน่วยงานยังจะได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอางจากสมุนไพรไทยภายในประเทศ รวมทั้งมีสถานบริการแพทย์ทางเลือกและบุคลากรทางการแพทย์ที่พร้อมสำหรับการให้คำปรึกษาเพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ/หรือรวมทั้งการศึกษาผลทางคลินิกของผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรในมนุษย์ รวมทั้งมีความต้องการข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ด้านการประเมินความปลอดภัย (Safety Evaluation) และการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) เพื่อสนับสนุนการผลิตผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรอีกหลายชนิดภายในประเทศและเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน...” ผู้ว่าการกล่าวเพิ่มเติม
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ วว. ซึ่งมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขา อีกทั้งยังมีผลงานวิจัยหลายโครงการที่จำเป็นต้องมีการต่อยอดทางคลินิก ซึ่งทางกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ นั้นมีโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งสิ้น 12 โรงพยาบาลที่พร้อมให้การสนับสนุนงานวิจัยของ วว. การทำงานร่วมกันต่อไปในครั้งนี้ถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีของทั้งสองหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์คือประชาชน นั่นเอง