สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ.2555 เวลา 9.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 18, 2012 14:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,775 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,770(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,750 บาท กับ 25,850 บาท และกลับมาปิดที่ 25,700บาท กับ 25,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,851คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,862 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 29 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.6% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4.7% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2% GFV12 ปิด 26,040 บาท และ GFZ12 ปิด 26,150บาท GF10V12 ปิดที่ 26,050 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,150บาท SVV12 ปิดที่ 1,070 สัญญา Comex ปิดลดลง 2.1ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,770.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 28.9เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.367 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,301.48ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม)น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2.38 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 96.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 40.27 จุด ปิดที่ระดับ 13,553.10 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.52 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สแทบจะไม่เคลื่อนไหวในการซื้อขายเมื่อวานนี้ ปรับตัวลดลง 2.1 เหรียญที่ระดับ 1,770.6 เหรียญ/ออนซ์ มีปริมาณการซื้อขาย 40% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 250 วัน เอาชนะตลาดน้ำมันที่มีความผันผวนปรับตัวลดลงมากกว่า 5 เหรียญในช่วงเวลาไม่กี่นาทีจากแรงเทขายทำกำไร เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีความผันผวนเป็นอย่างมากเนื่องจากเกิดความสงสัยที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดจากอีซีบีและเฟดจะเพียงพอต่อการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกหรือไม่ ส่งผลให้ในเช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง คอมเมิร์ซแบงก์ เอจี กล่าวในรายงานว่า กลุ่มโลหะมีค่าส่วนใหญ่ถูกจำกัดการไปต่อจากจุดที่เคยทำไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยระดับ 1,770 เหรียญ ราคาทองคำมีการซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งที่มีการทำไว้เมื่อวันศุกร์ ซึ่งไม่ใช่เพียงนักลงทุน ETF ที่มีการลงทุนในทิศทางขาขึ้น แต่ยังเป็นนักลงทุนทางการเงินต่างๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การเก็งกำไรของนักลงทุนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 กันยายนมีการเพิ่มปริมาณสถานะ Long Position ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ 137,600 คู่สัญญา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม อ้างอิงข้อมูลจาก CFTC ระบุว่า นักลงทุนต่างๆ เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต โดยมีการเก็งกำไรในสถานะ Long Position สุทธิในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 61.7 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 655.6 ตัน โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมาจากการเพิ่มสถานะ Long Position ใหม่ 47.7 ตัน และการลดสถานะ Short Position อีก 14 ตัน แสตนดาร์ดแบงก์ ระบุในรายงานว่า เมื่อมองย้อนกลับไปช่วงหลังการประกาศ QE ล่าสุด จะเห็นได้ว่าการเก็งกำไรในสถานะ Long Position สุทธิลดลงในสัปดาห์หน้า แม้ว่าจะมีแรงขับเคลื่อนในเชิงบวกที่อาจทำให้มีการหวนกลับและมาลงทุนบ้างเป็นบางครั้งก็ตาม นอกจากนี้ เมื่อเทียบการเก็งกำไรในสถานะ Long Position สุทธิเป็นเปอร์เซ็นของ Open Interest ที่ระดับ 26.7% นั้นยังไม่ถือว่าสูงมากนัก และยังมีพื้นที่สำหรับการเพิ่มการเก็งกำไรในสถานะ Long Position ต่อไปได้อีก ทั้งนี้ กลยุทธ์การเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หรือ Buy on dips ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ นายเดนนิส การ์ทแมน นักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนการ์ทแมน เลทเทอร์ ได้กล่าวว่า เฟดและอีซีบีได้ปฏิบัติในสิ่งที่ชัดเจนว่า ทั้งสองจะดำเนินการขยายการกระตุ้นเศรษฐกิจไปจนกว่าจะเห็นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้ในระยะยาว โพลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า เฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรทั้งหมด 6 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และจะทำให้อัตราการว่างงานของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 7% ถึงจะมีการระงับการใช้แผนดังกล่าวต่อไป แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบีได้ช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การประชุมของกลุ่มรัฐมนตรีคลังของยุโรปในไซปรัสในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า พวกเขาไม่มีความเร่งรีบในการแก้ปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่ และจากความไม่แน่นอนดังกล่าวได้ส่งผลต่อตลาด ซึ่งกลุ่มผู้กำหนดนโยบายได้ตัดสินใจที่จะเลื่อนเวลาการดำเนินการเร่งด่วนออกไปในสามประเด็นหลัก ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือแก่สเปน การตัดสินใจในเรื่องระยะเวลาเพิ่มเติมที่กรีซร้องขอเพิ่มอีก 2 ปี และการควบคุมแลระบบธนาคารต่างๆ ของยุโรป ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์ - Empire State Manufacturing Index เดิมอยู่ที่ระดับ - 5.9 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -10.4 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Current Account เดิมอยู่ที่ระดับ -137B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.9B - TIC Long-Term Purchases เดิมอยู่ที่ระดับ 9.3B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 37.3B - NAHB Housing Market Index เดิมอยู่ที่ระดับ 37 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 38 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold —ราคาทองคำมีแรงเทขายทำกำไรลงมาหลังจากทีทรงตัวระดับ 1,772 เหรียญ และไม่สามารทำNew Highได้ที่ระดับ 1,776 เหรียญ ภาพรวมเป็นการขายทำกำไรซึ่งน่าจะเป็นการเข้าช้อนซื้อของนักลงทุนระยะยาว แนวโน้มทิศทางระยะกลางและยาวเป็นขาขึ้น โดยมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,750 เหรียญ และแนวรับถัดไปที่สำคัญระดับ 1,745 เหรียญ แนะนำให้เข้าช้อนซื้ออย่างต่อเนื่องบริเวณดังกล่าว โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,770 เหรียญ Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,050 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,150 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,750 - 1,765 เหรียญ โดยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) เข้าช้อนซื้อเพิ่ม Portfolio เป็น 50% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เข้าช้อนซื้อถือครองพอร์ท 50 % สรุปได้ว่า เป็นแรงเทขายทำกำไรของตลาดซึ่งน่าจะกินเวลาสั้นๆเพียง 1 — 2 วันเท่านั้น ให้หาจังหวะเช้าซื้อต่อเนื่อง บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ