กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนเปิดกรุงไทย 8% ทริกเกอร์ ฟันด์ 6 ( KT-Trigger6 ) เป็นกองทุนที่มีนโยบายกระจายเงินลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือ ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ โดยมีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 310 ล้านบาท ในราคา IPO ที่ 10 บาท
ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารกองทุน ภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม ในวันที่ 15 มิถุนายน 2555 โดยใช้ระยะเวลาเพียง 3 เดือน ในการบริหารกองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย ( NAV ) ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 10.8082 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ซึ่งเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดโครงการ ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายโดยอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS ) ในวันที่ 21 กันยายน 2555 ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2555 เป็นต้นไป
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ถึงแม้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปที่ออกมาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังคงไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับมาตรการการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศออกมาในช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้เงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดทุน โดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ในขณะที่ยอดการขายบ้าน และที่อยู่อาศัยที่ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้เป็นส่วนช่วยผลักดันให้ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศมีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยผลักดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
บริษัทได้คาดการณ์เป้าหมายของดัชนี SET ในปี 2556 ไว้ที่ 1,450 จุด โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์น่าจะมีการปรับฐานหลังจากตลาดได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุดได้ภายในสิ้นปี บริษัทได้เล็งเห็นเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึงอยู่ในระหว่างการเตรียมยื่นขอจัดตั้งกองทุนเปิดกรุงไทย 8% ทริกเกอร์ ฟันด์7 (KT-TRIGGER7) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะจำหน่ายได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ แนวทางการลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ในการคัดสรรหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงตามปัจจัยพื้นฐาน มีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคงและสามารถสร้างอัตราการเติบโตของกำไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนโดยร่วมมือกับทางฝ่ายวิจัยของบริษัทอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนถึงเป้าหมายตามที่ได้คาดการณ์ไว้