กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--บลจ. เอ็มเอฟซี
เอ็มเอฟซีสร้างสถิติทาร์เก็ตฟันด์โดดเด่นเข้าเป้าหมายผลตอบแทนเป็นกองทุนที่ 8 ของปีนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนเฮต่อเนื่องเตรียมรับผลตอบแทนคืน 7% จากกองทุนเปิด SPOT7S6 ล่าสุดเอ็มเอฟซีเตรียมขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 ซีรี่ส์ 2 (SPOT55S2) ตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทนร้อยละ 10 ภายใน 10 เดือน เปิดขายครั้งเดียววันที่ 1-14 พฤศจิกายน 2555
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีได้สร้างผลงานความสำเร็จของทาร์เก็ตฟันด์โดดเด่นเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอีกเป็นครั้งที่ 8 ของปีนี้ จากกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีสปอท 7 ซีรี่ส์ 6 หรือกองทุนเปิด SPOT7S6 ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณร้อยละ 7 หรือ 10.70 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยใช้เวลาในการบริหารกองทุน 7 เดือน 3 วัน โดยกองทุนดังกล่าวได้จัดตั้งในช่วงปลายไตรมาส1 ที่ระดับดัชนี 1203.91 จุด และสามารถปิดกองทุนได้ที่ระดับดัชนี 1281.81 จุด
เพื่อเป็นการสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในทาร์เก็ตฟันด์ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย เอ็มเอฟซีจึงเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 ซีรี่ส์ 2 หรือกองทุนเปิด SPOT55S2 ที่มีนโยบายลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ในประเทศ และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 10 ภายใน 10 เดือน โดยมีลักษณะพิเศษคือ หากกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.55 บาทขึ้นไป กองทุนเปิด SPOT55 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับคืนผลตอบแทนครั้งที่ 1 ในอัตราร้อยละ 5 ก่อน และบริษัทจัดการจะทำการบริหารเงินลงทุนเดิมเพื่อให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นต่อจนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเป้าหมายเพื่อรับผลตอบแทนอีกร้อยละ 5 ต่อไป
กลยุทธ์ของกองทุนเปิด SPOT55S2 จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยมีการบริหารกองทุนแบบ Active ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงทีทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ และสามารถลงทุนในตราสารอนุพันธ์ โดยลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures โดยเอ็มเอฟซีคาดว่ามีปัจจัยสนับสนุนที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสต่อการลงทุนของกองทุนเปิด SPOT55S2 ให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั้งยุโรป อเมริกา และจีน ทำให้สภาพคล่องภายในระบบเพิ่มสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป จึงเป็นปัจจัยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนมายังสินทรัพย์เสี่ยงในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้แข็งแกร่ง จากการลงทุนภาครัฐ และการบริโภคของภาคเอกชน โดย GDP ในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 5.5-6.0% และ 4.5-5.0% ในปีหน้า และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 18% ในปีนี้ และ 17% .ในปีหน้า
กองทุนเปิด SPOT 55S2 เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนในตราสารทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com หรือสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โทร. 02-835-3055-57
กรรมการผู้จัดการกล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็มเอฟซีเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแห่งแรกที่บริหารทาร์เก็ตฟันด์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และสร้างสถิติในการบริหารทาร์เก็ตฟันด์ได้ตามเป้าหมายผลตอบแทนรวม 29 กองทุนด้วยกัน ซึ่งเฉพาะปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายถึง 8 กองทุนด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสูงกว่าผลตอบแทนเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ เอ็มเอฟซียังคงมุ่งพัฒนาและบริหารทาร์เก็ตฟันด์เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่อง