กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
VGI แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2555/56 (ก.ค.-ก.ย.55) เติบโตกว่า 162% โดยมีรายได้รวม 738 ล้านบาท กำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เผยเป็นเพราะการบริหารที่มีประสิทธิภาพและการเติบโตของสื่อไลฟ์สไตล์มีเดีย ด้านผู้บริหาร “มารุต อรรถไกวัลวที” เร่งเดินหน้าหาโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
มารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้นำธุรกิจให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาที่สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคสมัยใหม่ (Lifestyle Media) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนไตรมาส 2 ปี 2555/56 (ก.ค.-ก.ย.2555) ว่า บริษัทมีรายได้รวม 738 ล้านบาท เติบโต 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 535 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น162% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 96 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้เติบโต คือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าโฆษณาจากทุกธุรกิจ ทั้งสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส สื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด และสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะรายได้จากสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสในไตรมาสนี้มีรายได้เติบโตถึง 27% หรือ 79 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรเทียบกับยอดขายสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทมีอยู่ เนื่องจากตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา บริษัทจ่ายค่าสัมปทานให้ บมจ. ระบบขนส่ง มวลชนกรุงเทพ (“BTSC”) ลดลงตามสัญญาฉบับใหม่ นอกจากนี้ รายได้จากโมเดิร์นเทรดยังเติบโตต่อเนื่องจากการที่บริษัทได้รับสิทธิโฆษณาเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ปี 2554/55 ซึ่งในปี 2555/56 จะเป็นการรับรู้รายได้จากสัญญาเพิ่มเติมดังกล่าวแบบเต็มปี
“ความนิยมของสื่อไลฟ์สไตล์ มีเดีย และ In-store Media เติบโตอย่างมาก เนื่องจากลูกค้าที่ใช้บริการได้เห็นผลอย่างชัดเจนในด้านการสร้างแบรนด์และสร้างยอดขาย เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด บริษัทฯ จึงเชื่อว่าผลการดำเนินงานไตรมาสถัดๆ ไป ยังคงจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เนื่องจากเป็นเทศกาลพักผ่อนและมอบของขวัญแก่กัน ผู้ผลิตสินค้าต่างๆ จึงมีการใช้สื่ออย่างมากในการกระตุ้นการขาย” มารุต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวด้วยว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหุ้น VGI ได้เริ่มการซื้อขายเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของบริษัท เนื่องจากเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กร และจะมีผลต่อการขยายธุรกิจในอนาคต ดังนั้น เชื่อว่าผลการดำเนินงานในรอบปี 2555/56 (เม.ย.2555-มี.ค.2556) จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย
การเติบโตของรายได้ของบริษัทจะมาจากทุกสื่อโฆษณา ทั้งในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามส่วนต่อขยายเส้นทางเดินรถ และการเพิ่มขึ้นของจำนวนขบวนรถไฟฟ้า ส่วนสื่อในโมเดิร์นเทรด และสื่อในอาคารสำนักงานและสื่ออื่นๆ จะขยายตัวตามการขยายสาขาของห้างเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และวัตสัน และการเพิ่มจำนวนอาคาร และพื่นที่สื่อที่บริษัทบริหารจัดการให้ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้น
“บริษัทไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดและพยายามมองหาโอกาสใหม่อยู่เสมอ ทั้งในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ โดยเป้าหมายที่ละเลยไม่ได้คือประเทศในประชาคมอาเซียน ซึ่งจะรับกับ AEC ในปี 2558 โดยเฉพาะประเทศลาว พม่า และกัมพูชา ที่สื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก” มารุต กล่าว
ในปัจจุบันบริษัทได้รับสิทธิบริหารสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ประเภทสื่อดิจิทัลบนสถานีในบริเวณชานชาลาและจอดิจิทัลในรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงธุรกิจให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 6,000 ตารางเมตร จากจำนวน 23 สถานี นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปบริหารสื่อโฆษณาในห้างเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี วัตสัน รวมถึงการบริหารสื่อโฆษณาบนจอแอลซีดีภายในอาคารสำนักงานจำนวน 51 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ