กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.02 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 109.20 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส (WTI) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.63 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลอยู่ที่ 88.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 106.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทางด้านราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 118.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดีเซลเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.41 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 123.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- OPEC (ไม่รวม Angola และ Ecuador) ส่งออกน้ำมันดิบ เฉลี่ย 4 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ม.ค. 56 ลดลง 6.4 แสนบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ย 4 สัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 24.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค. 55 ลดลง 9.6 แสนบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 371.64 ล้านบาร์เรล
- Norwegian Petroleum Directorate (NPD) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันของนอร์เวย์เดือน พ.ย. 55 ต่ำกว่าเป้าหมาย 15% อยู่ที่ระดับ 1.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปัญหาทางด้านเทคนิคของแหล่งผลิตน้ำมันดิบ
- สหภาพยุโรปออกกฎหมายบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่ประกาศไว้ก่อนหน้าในเดือน ต.ค. 55 โดยมีข้อกำหนดห้ามการชื้อขายก๊าซธรรมชาติจากอิหร่านรวมทั้งขยายขอบเขตการคว่ำบาตรนิติบุคคลเพิ่มขึ้นเป็น 490 ราย และบุคคลธรรมดา 150 ราย มาตรการคว่ำบาตรข้างต้นมีเป้าหมายให้อิหร่านยกเลิกการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 3/55 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า 0.4% มาอยู่ที่ระดับ 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- HSBC รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash Purchasing Managers' Index) ของจีนเดือน ธ.ค. 55 ปรับเพิ่มขึ้น 0.4 จุด จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 50.9 จุด
- สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ Standard & Poor’s (S&P) ปรับเพิ่มความน่าเชื่อถือของกรีซ มาอยู่ที่ระดับ B- (จาก Selective Default) ด้วยแนวโน้มมีเสถียรภาพ จากความพยายามลดรายจ่ายงบประมาณของรัฐบาลและปฏิรูปเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่องเพื่อคงสถานะการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียจากแหล่ง El Sharara และ Es Sider กลับมาผลิตในระดับปกติหลังจากความรุนแรงภายในประเทศและปัญหาท่อขนส่งชำรุดทำให้ปริมาณ การส่งออกหยุดชะงัก 4.3 แสนบาร์เรลต่อวัน
- Motiva Enterprises รายงาน Crude Distillation Unit (325 KBD) โรงกลั่นที่ Port Arthur รัฐ Texas จะยังไม่สามารถกลับมาทำงานได้ในวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค.55 ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้า
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์กรายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐ (NY FED Manufacturing) เดือน ธ.ค. 55 ลดลง 2.88 จุด จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ -8.10 จุด ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ธ.ค.55 เพิ่มขึ้น 17,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 361,000 ราย เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ที่ 24-28 ธ.ค. 55
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากนักลงทุนกังวลต่อความล่าช้าในการเจรจาปัญหาหน้าผาทางการคลังสหรัฐฯ และลดการถือสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตของผู้บริโภคเยอรมนีเดือน ม.ค. 56 อยู่ที่ระดับ 5.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 0.2 จุด จากแรงกดดันของปัญหาเศรษฐกิจยุโรป ทางด้านอิรักเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 55 และคาดว่าจะเพิ่มสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2557 ส่วนความกังวลทางด้านการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ในซีเรียลดลงเพราะข่าวกรองของอิสราเอลระบุว่าประธานาธิบดี Assad ยังไม่มีแนวคิดใช้อาวุธเคมีส่งผลให้ราคาน้ำมันอ่อนตัว อย่างไรก็ตามภาวะอากาศเย็นจัดใน สหรัฐฯ, รัสเซีย และเอเชียเหนือหนุนความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความอบอุ่น ทางด้านการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของกลุ่มประเทศเอเชียปี 2556 มีแนวโน้มลดลง 10-20% จากปีก่อนหน้า เพราะอุปสรรคในการชำระเงินค่าน้ำมันทำให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ซื้อเพิ่มขึ้น โดยจีนจะลดการนำเข้าปีหน้าลง 10% จากปัจจุบันที่นำเข้า 4.22 แสนบาร์เรลต่อวัน (ม.ค.-พ.ย. 55) ทั้งนี้ให้จับตาการเจรจาเพื่อเลี่ยงการตกหน้าผาทางการเงินในสหรัฐฯ ที่มีเส้นตายวันที่ 1 ม.ค. 56 ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent มีแนวรับแนวต้านทางเทคนิคอยู่ที่ 87.89 - 90.25 USD/BBL และ 106.81 - 111.14 USD/BBL ตามลำดับ