บลจ.กรุงศรี โชว์ผลงานบริหารกองทริกเกอร์เข้าเป้า 2 กองต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 15, 2013 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--บลจ.กรุงศรี นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนทริกเกอร์ต่อเนื่องกัน 2 กองทุนภายในเดือน มี.ค. ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4%พลัส4%ทริกเกอร์2 (KFEQ4P4-2) และ กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4%พลัส4%ทริกเกอร์3 (KFEQ4P4 -3) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการดีในระยะกลางถึงยาว โดยกองทุนตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวมกันประมาณ 8% และมีจุดเด่นที่ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเร็วขึ้นจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4% หรือเท่ากับ 10.40 บาท และครั้งที่ 2 อีก 4% เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.93 บาท บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ บริษัทสามารถบริหารกองทุนทั้งสองเข้าเป้า 4% ครั้งที่ 1 ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และจ่ายผลตอบแทนครั้งที่ 1 ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท” “โดยในวันที่ 5 มี.ค. 56 กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4%พลัส4%ทริกเกอร์2 (KFEQ4P4-2) มีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 4% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และบริษัทฯได้นำเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ในวันที่ 11 มี.ค. 56 ผู้ลงทุนสามารถดำเนินการขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุน KFCASH ไปยังกองทุนอื่นได้ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา และในวันที่ 8 มี.ค. 56 กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4%พลัส4%ทริกเกอร์3 (KFEQ4P4-3)มีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 4% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเช่นเดียวกัน และบริษัทฯได้นำเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ในวันที่ 14 มี.ค. 56 โดยผู้ลงทุนสามารถดำเนินการขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุน KFCASH ไปยังกองทุนอื่นได้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.เป็นต้นไป” นายฉัตรพี กล่าวเสริมว่า “บริษัทมีมุมมองเป็นบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย โดยมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วง1 — 2 ปี และมีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,800 จุดได้ แม้ในระยะสั้นตลาดอาจมีการพักฐานหรือมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ก็มีปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยหลายประการ ทั้งในส่วนของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเงินลงทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดี ”นายฉัตรพี กล่าว นักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-226300 หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ