กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 47 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานปิดการสัมมนา “โครงการ ดับควันบุหรี่ในที่สาธารณะ” พร้อมมอบประกาศนียบัตรและโล่รางวัลแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและนักเรียนที่ชนะการประกวดระบายสีชั้นประถมศึกษาที่เขตฯได้จัดขึ้น โดยมี นายเริงศักดิ์ โหราเรือง ผู้อำนวยการเขตพญาไท ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องโครงการตัวแทนของ 50 เขต สถานประกอบการ และผู้แทนองค์กรต่างๆ ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมอาคารรับรองการเดินทาง พล.ม.2 รอ. กองพลทหารม้าที่ 2 มหาดเล็กรักษาพระองค์
ผู้อำนวยการเขตพญาไท กล่าวว่า ตามที่ เขตฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นเขตนำร่องของกทม. ในการจัดโครงการการดับควันบุหรี่ในที่สาธารณะ เขตพญาไท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ซึ่งได้กำหนดให้สถานที่สาธารณะ 5 ประเภท ได้แก่ สถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มหรือสถานที่จัดเลี้ยงเฉพาะบริเวณที่มีระบบปรับอากาศ โรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา สถานพยาบาล สถานที่ราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือสถานจำหน่ายสินค้าเฉพาะที่มีระบบปรับอากาศ ต้องจัดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งพื้นที่ หรือการจัดสถานที่ให้สูบบุหรี่โดยเฉพาะ หากพบว่ามีการฝ่าฝืน ผู้กระทำผิดมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ผู้ครอบครองสถานที่สาธารณะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งได้มีการดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2547 เป็นต้นมา รวมทั้งได้มีการ แต่งตั้งคณะกรรมการออกตรวจสถานที่สาธารณะที่เข้าข่ายในเขตพญาไท จำนวน 330 แห่ง และสถานที่จำหน่ายอาหารและสะสมอาหาร จำนวน 37 แห่ง โดยโครงการนี้ได้สิ้นสุดการดำเนินโครงการในเดือน ธ.ค. 47 เขตฯจึงได้จัดพิธีปิดโครงการดับควันบุหรี่ในที่สาธารณะ รวมทั้งจัดการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “ทำอย่างไร จึงจะอดบุหรี่อย่างยั่งยืน”
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อสนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยประชาชนในเรื่องบุหรี่ กรุงเทพมหานครได้มีโครงการรณรงค์ดับควันบุหรี่ในที่สาธารณะ โดยกำหนดให้เขตพญาไทเป็นเขตนำร่อง อย่างไรก็ตามการปิด โครงการครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดการรณรงค์หรือการยุติการบังคับใช้กฎหมาย แต่จะเป็นการเริ่มต้นให้กับอีก 49 สำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร ในการขยายความร่วมมือและร่วมใจ ขององค์กรทางภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้ผู้ไม่สูบบุหรี่ได้รับความ คุ้มครองและจะเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับทุกคนได้เห็นความสำคัญของสภาพแวดล้อมที่ปลอดจากควันพิษของบุหรี่ร้ายอันเป็น ตัวการสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพและทำลายอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่เขตต่อไป--จบ--