กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--เอสซีจี เคมิคอลส์
“เอสซีจี เคมิคอลส์” ร่วมกับ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1และกลุ่มประมงเรือเล็ก ใน จ.ระยอง มุ่งสร้างบ้านปลา 100 หลัง ในปี 2556 เพื่อร่วมฉลองเอสซีจีก่อตั้งครบรอบ 100 ปี
โครงการ“หาดงามตา ปลากลับบ้าน” เกิดขึ้นโดยเอสซีจี เคมิคอลส์ ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของไทย ด้วยความต้องการนำวัสดุที่เหลือจากกระบวนการทดสอบ(ท่อพีอี 100) นำมาประกอบและติดตั้งเป็น “บ้านปลาจำลอง” เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นที่หลบภัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล
เมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมา เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้จัดพิธีเปิดโครงการ “เอสซีจี เคมิคอลส์ หาดงามตา ปลากลับบ้าน” โดยได้วางบ้านปลาจำนวน 10 หลัง บริเวณปากคลองแกลง เทศบาลตำบลแกลงกระเฉด และมีการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ไปแล้วนั้น
ในวันนี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ขยายโครงการมาในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลตำบลเนินพระ และกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา, หาดแสงเงิน, ปากคลองตากวน และพนักงานเอสซีจี เคมิคอลส์ วางบ้านปลาหลังที่ 11 — 30 จำนวน 20 หลัง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และอนุรักษ์อาชีพประมงให้คงอยู่สืบไป
คุณเสรี บุญสุทธิ ปลัดเทศบาลตำบลเนินพระ ปฎิบัติหน้าที่- นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเนินพระ กล่าวว่า เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่นี้ เริ่มตั้งแต่พาพนักงานมาเก็บขยะชายหาด สนับสนุนการเลี้ยงหอยแมลงภู่ และเครื่องตีเพรียงให้กับกลุ่มประมงในพื้นที่ ซึ่งช่วยสร้างจิตสำนึกเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นตัวอย่างของผู้ลงมือทำอย่างแท้จริง
คุณเฑวิณฑร์ สมงาม ผู้จัดการกิจการเพื่อสังคม บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด กล่าวว่า “โครงการ หาดงามตา ปลากลับบ้าน เกิดขึ้นได้จากสององค์ประกอบหลักที่สำคัญคือ “การมีส่วนร่วม” และ “ความยั่งยืน” หากขาดความร่วมมือ ร่วมแรงและร่วมใจของกลุ่มชุมชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประมงเรือเล็กฯ รวมไปถึงภาครัฐ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1ที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน แรงผลักดันเพื่อต่อยอดแนวคิดเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลก็คงจะไม่สัมฤทธิ์ผล นอกจากนี้ การเข้าไปทำกิจกรรมของเอสซีจี เคมิคอลส์ เรานำความรู้ นำแนวคิดมาถ่ายทอด เพื่อให้ชุมชนสามารถร่วมกันประกอบ ติดตั้งและเกิดความรู้สึกร่วมกันว่าโครงการนี้เป็นของทุกคน ทุกกลุ่มจะช่วยกันรับผิดชอบ ดูแลและติดตามผลซึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายการทำซีเอสอาร์เพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน”
คุณลำเพย แว่วเสียง ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา กล่าวว่า กลุ่มประมงเรือเล็กล้วนแต่ยึดอาชีพการทำประมงเป็นหลัก จึงมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับท้องทะเลมากกว่าใครๆ และถือว่าท้องทะเลเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของพวกเรา แต่ในปัจจุบัน สภาพทะเลไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน ทรัพยากรเริ่มน้อยลงๆ ทำให้พวกเราต้องออกไปจับสัตว์น้ำไกลมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จากเดิมอาจจะเดินเรือออกไป 3-5 กม. แต่ปัจจุบัน 5-12 กม. จากฝั่ง จึงจะสามารถจับสัตว์น้ำได้ในปริมาณที่เคยหาได้ ซึ่งโครงการ “หาดงามตา ปลากลับบ้าน” จะ ช่วยให้พื้นที่ใกล้ชายฝั่งกลับคืนสู่ความสมบูรณ์อีกครั้ง ชาวประมงไม่ต้องออกไปหาปลาไกลอีก
คุณภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 กล่าวว่า ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ได้ร่วมกับ เอสซีจี เคมิคอลส์ สำรวจผลของบ้านปลา 10 หลังแรกได้วางที่ตำบลปากคลองแกลง โดยส่งทีมนักดำน้ำลงไปสำรวจ พบว่าประโยชน์ของบ้านปลานี้คือ มีปลาที่เป็นปลาเศรษฐกิจมาอาศัยอยู่เยอะขึ้น เช่น ปลากระพง, ปลากระเบน, ลูกปลาทู และปูหิน ที่มักพบตามซอกหิน ซอกปะการัง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกปลอดภัยเหมือนบ้าน ซึ่งชี้วัดได้เบื้องต้นว่า บ้านปลาเหล่านี้ ช่วยเพิ่มทรัพยากรทางทะเลใกล้ฝั่ง เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ สร้างประโยชน์แก่กลุ่มประมงฯได้
คุณสมัย พงษ์พันธ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด กล่าวว่า พื้นที่ชายฝั่งทะเลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมและเศรษฐกิจของ จ.ระยอง เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่ามากมาย เช่น ก๊าชธรรมชาติ น้ำ แร่ธาตุ อาหาร ชายหาด และทัศนียภาพอันงดงาม และยังเป็นพื้นที่สำคัญของโครงข่ายคมนาคมที่เป็นประตูเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
เอสซีจี เคมิคอลส์ หวังว่า จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในโครงการ “หาดงามตา ปลากลับบ้าน” จะช่วยพัฒนาและจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพิ่มพื้นที่อยู่อาศัย อนุบาล หลบภัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล และส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากเพิ่มแหล่งทำประมง ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการนำวัสดุที่เหลือจากกระบวนการทดสอบ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสียพลังงานที่ใช้ในการกำจัดทิ้ง ด้วยการนำมาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
มณีรัตน์ รัตนมณี (ดิว)
CSR- Community Communications บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด
โทร. 038937090
Email: maneerar@scg.co.th