คปก.ยื่นความเห็นร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม เสนอขยายความคุ้มครองแรงงาน — ตั้งสำนักงานประกันสังคมเป็นนิติบุคคล

ข่าวทั่วไป Tuesday April 2, 2013 12:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย นายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคปก.เรื่อง ร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม(ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯสภาผู้แทนราษฎร หลังจากสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ฉบับที่เสนอโดยครม.และฉบับที่เสนอโดยนายเรวัต อารีรอบกับคณะ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 แต่ไม่รับหลักการร่างฯฉบับนางสาววิไลวรรณ แซ่เตียกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 14,264 และฉบับนายนคร มาฉิม และคณะเป็นผู้เสนอ ในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะฉบับนี้ คปก. มีความเห็นใน 2 ประเด็นหลักคือ การที่สภาผู้แทนฯมีมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ฉบับประชาชน และประเด็นหลักการและสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ทั้ง 4 ฉบับ ประเด็นแรก การที่สภาผู้แทนฯมีมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ ฉบับประชาชน คปก.เห็นว่า เมื่อรัฐธรรมนูญรับรองให้ผู้แทนประชาชนที่เข้าชื่อเสนอกฎหมายเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญจำนวนไม่น้อยกว่า1ใน 3 ของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมด ย่อมแสดงให้เห็นว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในกระบวนการและขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนของสภาผู้แทนราษฎรอย่างยิ่งยวด ดังนั้น การพิจารณาลงมติไม่รับหลักการร่างกฎหมายที่เข้าชื่อโดยประชาชนที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 163 อาจทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และอาจทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือต่อสถาบันรัฐสภาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต สำหรับหลักการและสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ประกันสังคมฯ คปก.เห็นว่า ควรขยายขอบเขตการคุ้มครอง โดยควรขยายหรือเปลี่ยนนิยาม ”ลูกจ้าง” และ “นายจ้าง” ให้ครอบคลุมแรงงานกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านและการจ้างงานในภาคเกษตรด้วย เพื่อส่งผลให้แรงงานทั้งสองกลุ่มอยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทดแทนทั้ง ๗ กรณีและผู้จ้างงานร่วมสมทบในเงินกองทุนประกันสังคม ส่วนการบริหารงานของสำนักงานประกันสังคมควรมีความเป็นอิสระ โดยให้สำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นส่วนราชการ และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความคล่องตัว ส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการประกันสังคมในตำแหน่งประธานกรรมการของคณะกรรมการประกันสังคมต้องไม่เป็นข้าราชการ และได้มาจากการสรรหาโดยกรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้าง กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิควรมาจากการสรรหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และควรคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของหญิงและชายด้วย ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ฯ กำหนดให้มี “คณะกรรมการแพทย์”เพื่อทำหน้าที่เสนอความเห็น และให้คำปรึกษาคณะกรรมการประกันสังคมเกี่ยวกับการดำเนินงานในการบริการทางการแพทย์ ซึ่งควรประกอบด้วยผู้แทนจากสภาวิชาชีพสาธารณสุข โดยให้คณะกรรมการประกันสังคมเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา คปก.ยังเห็นควรให้มีคณะกรรมการการลงทุน โดยอ้างอิงจากงานวิจัยเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างและระบบการทำงานของสำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเสนอให้จัดโครงสร้างการบริหารสำนักบริหารการลงทุน เพื่อวางระเบียบเกี่ยวกับการจัดหา ผลประโยชน์ของกองทุน เสนอแนะด้านนโยบายและแผนยุทธศาสตร์และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกองทุนประกันสังคมในภาพรวม โดยคณะกรรมการนี้ควรได้มาโดยกระบวนการสรรหาตามระเบียบที่คณะกรรมการประกันสังคมกำหนด นอกจากนี้ คปก.เห็นควรให้มีควรมีคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบจากภายนอกที่เป็นอิสระ ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของสำนักงานเกี่ยวกับการจัดทำรายงานการเงินให้ถูกต้อง และเปิดเผย เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้กลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ทั้งคณะกรรมการการลงทุนและคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่ปรากฏในร่างพ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับที่สภาผู้แทนฯ มีมติรับหลักการ ส่วนประเด็นสิทธิหรือประโยชน์ทดแทน ในกรณีว่างงาน คปก.เห็นว่า มีกรณีการลาออกที่ไม่ใช่ความสมัครใจแท้จริงของลูกจ้าง จึงควรนิยามเรื่องว่างงานให้มีความชัดเจนครอบคลุมกรณีที่มิได้สมัครใจลาออกดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานนับแต่วันที่ว่างงาน และในกรณีมีเหตุขัดข้องเกี่ยวกับการหักค่าจ้างเพื่อนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนโดยไม่ใช่ความผิดของผู้ประกันตน ทำให้ผู้ประกันตนอาจเสียสิทธิและได้รับความเดือดร้อน คปก.เห็นควรกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อรองรับให้ผู้ประกันตนยังคงมีสิทธิในหลักประกันสังคมเช่นปกติ อย่างไรก็ดี การจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 คือ ลูกจ้างที่พ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง (ลาออก หรือถูกเลิกจ้าง) ขาดรายได้และมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบเองฝ่ายเดียว (จ่ายสองเท่าแทนนายจ้าง) คปก.เห็นว่า ไม่สอดคล้องกับหลักการประกันสังคมที่ยึดหลักการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข จึงควรมีมาตรการทางกฎหมายเพื่อรักษาสถานภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และให้สามารถออกระเบียบกำหนดระยะเวลาการให้ความคุ้มครอง ภายใต้กรอบเวลาที่เหมาะสม ติดต่อ: สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย : OFFICE OF LAW REFORM COMMISSION OF THAILAND อาคารซอฟต์แวร์ ปาร์ค ชั้น๑๙ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทร.๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๘ โทรสาร. ๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๔

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ