แพทย์ชื่อดังจากนิวยอร์กชี้ “อาการหย่อนสมรรถภาพฯ” ไม่ใช่แค่ปัญหาบนเตียงเตือนจุดบ่งชี้โรคร้ายที่แฝงตัว

ข่าวทั่วไป Friday April 26, 2013 10:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ - อาการหย่อนสมรรถภาพฯ คือสัญญาณเตือน 4 ปัญหาสุขภาพ — เบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเส้นเลือดสูง - เป้าหมายฟื้นฟูสุขภาพเพศชายสู่ “ความแข็งแกร่งระดับเกรด 4” เพื่อเพศสัมพันธ์ที่สุขสม และร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมยาคุณภาพของไทยและของโลก ได้เชิญ ศาสตราจารย์ นายแพทย์จอห์น มัลฮอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศแนวหน้าของโลก และเลขาธิการสมาคมเวชศาสตร์ทางเพศแห่ง อเมริกาเหนือ และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย ชั้นนำของไทย เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่สื่อมวลชนไทย เรื่อง “ไขข้อข้องใจปัญหาสุขภาพเพศชาย แบบเจาะลึก” เพื่อชี้ถึงสาเหตุและแนะแนวทางการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เหมาะสม รวมถึงตอบปัญหาสุขภาพเพศชายอย่างครอบคลุม การสัมมนาสำหรับสื่อมวลชนในครั้งนี้จัดขึ้น โดยมี ภญ. ยุวดี กิตติปัญญางาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ โดยมี ฮาร์ท — สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล เป็นพิธีกรและแปลสรุปความ ณ โรงแรมเซนต์ รีจีส กรุงเทพฯ อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรืออีดี (Erectile Dysfunction) คืออาการที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวและ/หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างสุขสม ปัจจุบัน อีดีไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ชายสูงอายุอย่างที่เข้าใจกันเท่านั้น แต่ยังเกิดกับผู้ชายอายุน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน โดยมีการพยากรณ์ล่วงหน้าว่า ในอนาคต ผู้ชายทั่วโลกจะมีปัญหาอีดีเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ภญ. ยุวดี กิตติปัญญางาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฟเซอร์ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมยาคุณภาพระดับโลกรวมถึงในประเทศไทย เราจริงจังกับการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและภาวะของอาการหย่อนสรรถภาพทางเพศหรืออีดี รวมถึงแนวทางป้องกันรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสที่ไฟเซอร์ได้แนะนำนวัตกรรมการรักษาอาการอีดีออกสู่ตลาดโลกครบ 15 ปี เราจึงได้เชิญ ศ.นพ. จอห์น มัลฮอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอีดีชั้นนำของโลกมาให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อกระตุ้นให้คุณผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกายและคุณภาพชีวิตรักกันมากขึ้น” ศ.นพ. มัลฮอลล์ กล่าวว่า “อาการอีดีเกิดจากปัจจัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่โรคทางร่างกายถึงร้อยละ 80 ส่งผลให้เกิดอาการอีดี โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด เนื่องจากเส้นเลือดส่วนที่มาเลี้ยงอวัยวะเพศชายนั้นมีขนาดที่เล็กมาก ดังนั้นหากร่างกายมีภาวะระบบหลอดเลือดผิดปกติ เส้นเลือดในส่วนดังกล่าวจะเกิดอาการตีบตัน เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงและขยายตัวได้ ซึ่งแสดงออกให้เห็นในลักษณะของการที่องคชาติไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่มีอาการอีดีจึงไม่ควรละเลย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและทำการรักษาตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม เพราะอีดีเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเส้นเลือดสูง” ศ.นพ. มัลฮอลล์ กล่าวว่า “เรื่องของ ‘ความแข็งแกร่ง’ หรือสมรรถภาพบนเตียงของคุณผู้ชายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้ชีวิตรักสุขสม โดยเป็นการแสดงออกถึงความรักความห่วงหาอาทรด้วยภาษากาย ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าความแข็งแกร่งดังกล่าวอยู่ในระดับที่ไม่น่าพึงพอใจ ก็จะส่งผลให้คุณผู้ชายสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และพลอยทำให้ชีวิตคู่มีปัญหาตามไปด้วย ทว่าปัญหาความแข็งแกร่งดังกล่าวมิได้สั่นคลอนแค่ขาเตียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึงโรคร้ายที่จะตามมาอีกด้วย ผู้ชายสามารถสังเกตอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ด้วยตนเองโดยการ ‘ประเมินค่าความแข็งตัวของอวัยวะเพศ’ (Erection Hardness Score หรือ EHS) ที่เทียบให้เข้าใจง่ายๆ เป็น ‘ระดับเกรดรัก 1 — 4’ (EHS1-4) โดยสามารถใช้ระดับเกรดรักดังกล่าวอธิบายอาการอีดีให้แพทย์รับทราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ทราบว่าหลังจากรับการรักษาแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเพียงใด โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการแข็งตัวของอวัยวะเพศในระดับเกรด 4 ซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุด ระดับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 เกรด ดังนี้ - เกรด 1 (EHS 1) คือ การที่อวัยวะเพศตื่นตัว ขยายขนาดพองขึ้นแต่ไม่แข็ง (อาการอีดีระดับรุนแรง) - เกรด 2 (EHS 2) คือ อวัยวะเพศแข็งตัวแต่ไม่เพียงพอที่จะสอดใส่เพื่อมีเพศสัมพันธ์ (อีดีระดับกลาง) - เกรด 3 (EHS 3) คือ การที่อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่ แต่เพียงพอที่จะสอดใส่ได้ (อาการอีดีระดับต้น) - เกรด 4 (EHS 4) คือ การที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ ทำให้สามารถร่วมรักได้อย่างมีความสุขทั้งสองฝ่าย และเป็นเป้าหมายของการรักษาอาการอีดี (ปลอดจากอาการอีดี) ศ.นพ. สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ กล่าวว่า “เรื่องความแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่คนไข้ให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะความแข็งตัวนั้นสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพทั่วไป ชีวิตคู่ และความพึงพอใจในการร่วมรัก ทั้งนี้ในด้านของการรักษา แนะนำว่าให้เริ่มจากการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตก่อน โดยเฉพาะคนในเมืองที่มีความเครียดสั่งสม ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สำหรับการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในปัจจุบัน ‘ยาเม็ดชนิดรับประทาน’ ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากทั้งแพทย์และคนไข้ แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานร่วมกับกลุ่มยาไนเตรต ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในกลุ่มคนไข้หัวใจขาดเลือด นอกจากนี้ การทานยาขณะท้องว่างจะให้ประสิทธิภาพดีที่สุด และไม่ควรทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันมาก เพราะไขมันจะไปขัดขวางการดูดซึม” การซื้อยามารับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งแพทย์เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการซื้อยาทางอินเตอร์เน็ต เพราะคนไข้มักจะประสบกับ ‘ปัญหายาปลอม’ ทำให้การรักษาไม่ได้ผล เสียเงิน เสียเวลา และอันตรายต่อสุขภาพ ไฟเซอร์มุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ผู้ที่มีอาการอีดี ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยอาการและรับ การรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
แท็ก นิวยอร์ก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ