ธนาคารโลกประเมินผลบรรษัทภิบาลตลาดทุนไทยอยู่ในระดับสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 26, 2013 11:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ก.ล.ต. ธนาคารโลกเปิดเผยผลประเมินบรรษัทภิบาลตลาดทุนไทยปี 2555 ในรายงานเรื่อง การประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านบรรษัทภิบาล (The Report on the Observance of Standards and Codes: Corporate Governance Country Assessment) หรือ CG - ROSC ซึ่งปรากฏว่าตลาดทุนไทยมีพัฒนาการที่ดีในการยกระดับบรรษัทภิบาล และเป็นผู้นำในภูมิภาคโดยได้คะแนนสูงในทุกเรื่องที่สำคัญ ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวนี้ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน อีกทั้งยังเป็นการรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือหุ้นรายย่อย เพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับคณะกรรมการบริษัท และยกระดับความโปร่งใสของกิจการ อย่างไรก็ดี ตลาดทุนไทยยังสามารถปรับปรุงการดำเนินการด้านบรรษัทภิบาลได้อีกหลายด้านเพื่อให้ทัดเทียมสากลมากยิ่งขึ้น ดังนี้ - การยกระดับธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจและปรับปรุงบทบาทภาครัฐในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การส่งเสริมความเป็นอิสระและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) - การปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น - การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องในส่วนที่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ถือหุ้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่มบทบาทของ ก.ล.ต. ในเรื่องดังกล่าว - การมีมาตรการให้บริษัทจดทะเบียนปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีสากลอย่างเต็มรูปแบบและเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน รวมทั้งข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการเงิน - การกำหนดแนวทางให้ชัดเจนเพื่อสร้างความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชีและการดำเนินงานของตัวกลางในตลาดทุน - การดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างให้คณะกรรมการบริษัทมีความเป็นอิสระและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ การประเมินผลบรรษัทภิบาลในครั้งนี้ ตลาดทุนไทยได้คะแนน 82.83 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยได้คะแนนสูงสุดในหมวดการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส ซึ่งธนาคารโลกเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปีของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกทั้งมีช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ทำให้ผู้ลงทุนรับทราบได้หลายช่องทางและในเวลาที่เหมาะสม พร้อมกันนี้ยังได้ปรับปรุงและออกกฎหมายและหลักเกณฑ์หลายฉบับ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านบรรษัทภิบาล อาทิ การกำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้น และการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท เป็นต้น นายเดวิด โรบิแนท ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการพัฒนาภาคเอกชน ธนาคารโลก กล่าวว่า “ผลการประเมินในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยเป็นผู้นำด้านบรรษัทภิบาลในภูมิภาคเอเชียและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องส่งเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ก.ล.ต. และ ธปท.รวมถึงยกระดับธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจให้สูงขึ้น เพื่อที่จะรักษาความเป็นผู้นำดังกล่าวไว้” นายคอนสแตนติน ชิโคซี่ รักษาการผู้อำนวยการ ธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นและพยายามในการปฏิรูปบรรษัทภิบาลตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อมุ่งไปสู่มาตรฐานสากลอย่างเต็มรูปแบบ อันที่จริงแล้วประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการยกระดับบรรษัทภิบาลโดยรวมสมควรให้เป็นที่ยอมรับและดำเนินการอย่างต่อเนื่องไป” นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า “ผลการประเมินของปี 2555 เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงบรรษัทภิบาลของตลาดทุนไทยที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเกิดจากความพยายามของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขกฎหมาย กฎเกณฑ์ และปฏิบัติตามแนวทางที่วางไว้ เพื่อให้การกำกับดูแลกิจการของตลาดทุนไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล แต่ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นความสำเร็จได้อย่างแท้จริง หากทุกฝ่ายร่วมปรับปรุงและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางอีกหลายด้านให้ดีขึ้นไปอีกจะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนยิ่งขึ้น โดยใช้ความมุ่งมั่นและความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อให้ตลาดทุนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยเข้าร่วมโครงการCG- ROSC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 นับเป็นความท้าทายสำคัญในการยกระดับบรรษัทภิบาล ของตลาดทุนไทยให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งการส่งเสริมและพัฒนาบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนนั้นเป็นนโยบายหลักที่สมาคมฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนไทยมีการพัฒนาไปมากจนเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ผลจากการประเมิน CG-ROSC ที่ดีในครั้งนี้ เป็นผลจากความทุ่มเทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทจดทะเบียนที่เห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าว และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทจดทะเบียนในการนำข้อเสนอแนะของธนาคารโลกไปใช้ในการปรับปรุงจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็งให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” อนึ่ง ธนาคารโลกร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินการยกระดับบรรษัทภิบาลตลาดทุนไทยตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1990โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดรายงานได้ที่ http://www.worldbank.org/corporategovernance หรือ www.sec.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ