ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกัน “ปตท.สผ.” ที่ “AAA” และหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 29, 2013 13:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ที่ระดับ “AAA” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตยังคงสะท้อนสถานะผู้นำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่มีมากพอ การสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการถือสัมปทานปิโตรเลียม และฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศด้วย แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า ปตท.สผ. จะยังคงดำรงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งต่อไปได้แม้จะมีแผนการลงทุนที่สูงในช่วงปี 2556-2560 นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังและเข้มงวดเพื่อให้บริษัทสามารถรับมือกับความผันผวนของราคาปิโตรเลียมและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในต่างประเทศ ปตท. สผ. เป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งก่อตั้งในปี 2528 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อถือสิทธิ์สัมปทานปิโตรเลียมในนามของรัฐบาลไทย ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติถือหุ้นใน ปตท.สผ. ในสัดส่วน 65.3% ทั้ง ปตท. และ ปตท.สผ. ยังคงมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้พระราชบัญญัติงบประมาณของไทย การเป็นตัวแทนของรัฐที่ทำหน้าที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจึงทำให้ ปตท.สผ. ได้รับประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการสัมปทานปิโตรเลียมที่สำคัญ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วทั้งหมดซึ่งรวมถึงแหล่งน้ำมันในต่างประเทศที่ระดับ 901 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับปี 2554 โดยสัดส่วนปริมาณสำรองปิโตรเลียมจากโครงการในต่างประเทศคิดเป็น 44% ของปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้วในปี 2555 เมื่อพิจารณาจากการผลิตที่ระดับประมาณ 314,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2555 แล้ว ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของบริษัทน่าจะผลิตได้นานประมาณ 8 ปี ซึ่งต่ำกว่าปริมาณสำรองของผู้ประกอบการระดับโลกที่มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 10-15 ปีเล็กน้อย ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 บริษัทมีโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรวมทั้งสิ้น 44 โครงการ โดย 19 โครงการอยู่ในขั้นตอนการผลิต และที่เหลืออยู่ในขั้นตอนการสำรวจและพัฒนา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการระดับโลกรายอื่นแล้ว ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ปตท.สผ. จัดว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ โดยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการผลิต (Lifting Cost) ของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 4.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2554 เป็น 4.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2555 ซึ่งเป็นผลมาจากการหยุดการดำเนินงานของโครงการอาทิตย์เหนือซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีต้นทุนเฉลี่ยในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียม (F&D) เพิ่มขึ้นในปี 2555 โดยต้นทุนเฉลี่ยของ F&D 5 ปีย้อนหลังสิ้นสุด ณ ปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 28.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบจาก 19.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2554 ซึ่งต้นทุนเฉลี่ยของ F&D ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Cove Energy PLC (Cove) ในปี 2555 มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินทรัพย์หลักของ Cove ได้แก่ การถือครองแปลงสัมปทาน Rovuma Offshore Area 1 ในประเทศโมซัมบิกในสัดส่วน 8.5% ซึ่งแปลงสัมปทานดังกล่าวคาดว่าจะมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ (Resources) ถึงประมาณ 65 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต เนื่องจากโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา จึงยังไม่สามารถรวมปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติจากโครงการนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้วของบริษัทได้ โครงการนี้มีแผนการพัฒนาเพื่อผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas --- LNG) ด้วยปริมาณการผลิตเบื้องต้นที่ 10 ล้านตันต่อปี และเมื่อมีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final investment decision) ในโครงการดังกล่าว ปริมาณสำรองน้ำมันที่พิสูจน์แล้วของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 170 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2557 ซึ่งตามแผนงาน โครงการดังกล่าวจะใช้เวลาพัฒนาประมาณ 5 ปี (2557-2561) จนกระทั่งสามารถจัดส่งก๊าซครั้งแรกได้ในปี 2562 ในปี 2555 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 23.0% เป็น 6,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น 16.9% และปริมาณขายที่มากขึ้น 4.1% เป็น 275,923 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นจาก 4,064 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 เป็น 5,104 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555 ด้วย บริษัทยังคงมีฐานะการเงินโดยรวมที่แข็งแกร่ง โดยโครงสร้างเงินทุนของบริษัทดีขึ้นอย่างมากหลังจากประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2555 ในขณะที่เงินกู้รวม (ปรับปรุงด้วยสัญญาเช่าดำเนินงานและหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน) นั้นยังคงอยู่ในระดับประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2555 ดังนั้น อัตราส่วนเงินกู้รวม (ปรับปรุงแล้ว) ต่อโครงสร้างเงินทุนจึงปรับตัวดีขึ้นจาก 39.2% ในปี 2554 เหลือ 27.5% ในปี 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่ดี โดย ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีเงินสดในมือ 2,292 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แผนค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนระยะ 5 ปีของบริษัทคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 14,767 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประมาณ 56% ของค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนทั้งหมดจะเป็นการลงทุนในประเทศไทย ส่วนที่เหลือจะเน้นการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (21%) อเมริกาเหนือ (16%) กลุ่มประเทศในทวีปออสเตรเลีย (3%) และอื่น ๆ (4%) การลงทุนดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตของบริษัทเป็น 2 เท่า จากระดับประมาณ 314,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2555 เป็น 600,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2563 เพิ่มขึ้น 286,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายนั้นส่วนใหญ่จะมาจากโครงการในขั้นตอนการสำรวจและพัฒนาในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงโครงการ Montara ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 โดยล่าช้าจากแผนเดิมประมาณ 1 ปีเนื่องจากระเบียบข้อบังคับในการทำงานของรัฐบาลออสเตรเลียที่เข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วและอุบัติเหตุไฟไหม้ในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2552 นอกเหนือจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสำรวจและพัฒนาโครงการซึ่งเกิดในเกือบทุกโครงการแล้ว บริษัทยังอาจเผชิญกับความเสี่ยงในการผลักดันให้โครงการสำเร็จตามเป้าหมายโดยเฉพาะโครงการในต่างประเทศด้วย บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) อันดับเครดิตองค์กร: AAA อันดับเครดิตตราสารหนี้: PTTEP135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 AAA PTTEP145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 11,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 AAA PTEP183A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AAA PTTEP195A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AAA PTTEP12PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน 5,000 ล้านบาท AA แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ