กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--เชาว์ สตีล อินดัสทรี้
CHOW สร้างผลงานนำร่องปี 56 ยอดเยี่ยม ปั๊มกำไรพุ่งกว่า 360% จากปีก่อนทะลุ 37.19 ลบ. “อนาวิลจิรธรรมศิริ” เผยเป็นผลจากรักษาส่วนต่างราคาซื้อ-ขายได้เหมาะสม และบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ หนุนมาร์จิ้นพุ่งเกือบ 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจทำผลงานทั้งปีเติบโตโดดเด่นได้ตามเป้าหมาย พร้อมส่งสัญญาณเตรียมลุยธุรกิจเพิ่ม หลังบอร์ดอนุมัติตั้งบริษัทลูกรองรับ
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยถึง ผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 1/2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ในงบเฉพาะกิจการ จำนวน 37.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ367.21 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7.69 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากทิศทางการปรับตัวของราคาเศษเหล็กกับราคาขายสินค้าเหล็กแท่ง (Billet) เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 7.0 ซึ่งสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 3.8 ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการบริหารจัดการและการควบคุมการเบิกจ่ายอย่างเป็นระบบจึงส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตในอัตราที่โดดเด่นดังกล่าว
“ไตรมาสที่ 1/2555 เราพลิกกลับมามีกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะราคาขาย Steel Billet ได้ปรับเพิ่มขึ้น จึงทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาวัตถุดิบและราคาขายได้กลับมาอยู่ในอัตราที่เป็นปกติอีกครั้ง ประกอบกับได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิกลับมาอยู่ในระดับที่เติบโตอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีก่อน” นายอนาวิลกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการในงบเฉพาะกิจการรวม 1,023.56 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32 จากรายได้ 1,504.38 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายปรับตัวลดลงร้อยละ 15 และปริมาณการขายที่ลดลง เนื่องจากการชะลอการสั่งซื้อสินค้า ในขณะที่บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดระเบียบเบิกจ่ายอย่างเป็นระบบ โดยมีค่าใช้จ่ายรวม 968.96 ล้านบาท จาก 1,473.91 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 34.25 และมีต้นทุนทางการเงินลดลงจาก 22.51 ล้านบาท มาอยู่ที่ 17.41 ล้านบาท จึงส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 37.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 29.23 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 7.96 ล้านบาท
นายอนาวิล กล่าวต่อถึงอุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ในปีนี้ว่า ยังมีสัญญาณเติบโตต่อเนื่องได้ จากความต้องการใช้เหล็กในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยังคงขยายตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการก่อสร้างทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ และโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่จะใช้วงเงินสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทฯ พร้อมจะรองรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว ทั้งด้านโรงงานการผลิต การบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม และการให้บริการที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ จนสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างสูงสุด ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายปริมาณการขายไว้ที่ 250,000- 300,000 ตัน
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2556 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยจัดตั้งภายในเดือนกรกฎาคม 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทอื่น แหล่งเงินทุนที่ใช้ มาจากเงินทุนหมุนเวียนบริษัท ซึ่งบริษัทย่อยที่จัดตั้ง มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 50 ล้านบาท และ CHOW ถือหุ้น ร้อยละ 100