‘ริชี่เพลซ’ เดินหน้าพัฒนาโครงการครั้งใหญ่สุดรอบ 11 ปี รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท ยึดทำเลทองแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ ชูโครงการเด่น ‘ริชพาร์ค2@เตาปูนอินเตอร์เชนจ์’

ข่าวอสังหา Thursday May 23, 2013 11:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ “ริชี่เพลซ 2002” เดินหน้าเปิดแผนรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เต็มสูบ ปักธงปี 2556 ปูพรมผุดโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 3-4 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ชูทำเลสุดฮิตติดแนวรถไฟฟ้า มั่นใจครึ่งปีหลังตลาดร้อนแรง รับปัจจัยหนุนเพียบทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน เผยโครงการในมือปีนี้รวมมูลค่าเหยียบ 10,000 ล้านบาท ดร.การุณ จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่บริษัทฯ ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2545 จนถึงวันนี้ มีโครงการภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ได้แก่ ริชพาร์ค@บางซ่อนสเตชั่น, ริชพาร์ค2@เตาปูนอินเตอร์เชนจ์, เลอริช พระราม 3, เลอริช รัชดา, เลอริช อารีย์ และโครงการทาวน์โฮม 1 โครงการได้แก่ เดอะริช บิซ โฮม สุขุมวิท 105 โดยทุกโครงการได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมามีโครงการที่ปิดการขายแล้ว 2 โครงการ อาทิ บ้านเดี่ยว 1 โครงการได้แก่ ริชี่ วิลล์ บางบัวทอง และคอนโดมิเนียมริชชี่ทาวเวอร์ เพชรเกษม-สาทร รวมพัฒนามาแล้วทั้งสิ้น 8 โครงการ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ทุกโครงการของริชี่เพลซ ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค นอกจากจะมาจากการเลือกทำเลเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งมองทิศทางการเติบโตของเมือง เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถสอดรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างสูงสุดแล้ว ยังมาจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมผู้บริหาร ที่จะสามารถทำให้ริชี่เพลซ ก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศได้ “ในฐานะประธานกรรมการบริษัทฯ ผมพร้อมใช้ประสบการณ์ รวมถึงความรู้ด้านการวิศวกรรมการก่อสร้าง เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมผู้บริหาร เพื่อวางแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะด้านการก่อสร้าง ที่ต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนด้านการก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในการทำตลาดที่อยู่อาศัยของริชี่ เพลซ ให้ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น” ดร.การุณ กล่าว ด้าน ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 กล่าวว่า เชื่อว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง จะยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีทั้งที่อยู่ในอาศัยในแนวราบและแนวสูง ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากการขยายตัวของเมือง ซึ่งเกิดจากการลงทุนระบบขนส่งทางรางของภาครัฐบาล ส่งผลให้เกิดทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้น ส่วนนโยบายด้านการลงทุนพัฒนาโครงการของบริษัทฯ นั้น จะเน้นการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบทั้งแนวราบและแนวสูง โดยเน้นทำเลที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง โดยศึกษาวิจัยถึงศักยภาพของทำเล การคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคที่จะเกิดขึ้น รวมถึงความต้องการลูกค้า เพื่อนำมาวางแผนและวิเคราะห์โครงการ จนนำไปสู่การพัฒนารูปแบบโครงการที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างเหมาะสม โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงอย่างน้อย 3-4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก “ปีนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่เราจะลงทุนพัฒนาโครงการมากที่สุดทั้งจำนวนและมูลค่าการลงทุน จากเดิมที่เราจะพัฒนาเพียงปีละ 1-2 โครงการ แต่สำหรับปีนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกเราดำเนินการไปแล้ว 1 โครงการ ส่วนครึ่งปีหลังจะเดินหน้าอีก 3-4 โครงการ ซึ่งในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของริชี่ เพลซ นั้น จะเน้นศึกษาความเหมาะสมด้วยหลักการทำวิจัย วิเคราะห์ศักยภาพของทำเลเพื่อพัฒนาโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า โดยชูจุดเด่นด้านศักยภาพของทำเลแห่งอนาคต และความคงทนแข็งแรงของโครงสร้าง รวมถึงระบบสาธารณูปโภคที่เพียบพร้อม มาเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นยอดจองซื้อให้มากขึ้น” ดร.อาภา กล่าว ประธานกรรมการบริหาร ริชี่ เพลซ 2002 กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการที่ถือเป็นไฮไลต์ในการผลักดันการรับรู้รายได้ให้แก่บริษัทฯ ในปีนี้ ได้แก่ โครงการริชพาร์ค@บางซ่อนสเตชั่น ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 27 ชั้น จำนวน 803 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท และโครงการริชพาร์ค2@เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ คอนโดมิเนียม 26 ชั้น จำนวน 735 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและได้เปิดให้ลูกค้าได้จองซื้อตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมองว่าทำเลที่ตั้งของทั้ง 2 โครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการขนส่งระบบรางที่เป็นสถานีร่วมรถไฟฟ้าความเร็วสูงและรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ