ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท “บ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” ที่ “BBB-/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 29, 2013 17:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB-” ด้วยเช่นกัน ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการขยายกิจการ อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทในโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ตลอดจนธุรกิจที่มีขนาดปานกลาง และโครงสร้างเงินทุนที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีผลงานที่ค่อนข้างจำกัดและขาดความต่อเนื่อง รวมถึงการมีสินค้าที่ขาดความหลากหลาย ลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และแรงกดดันจากต้นทุนค่าก่อสร้างและแรงงานที่ขาดแคลน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตที่ “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในโครงการคอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้าจะยังคงแข็งแกร่งและโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทจะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงและวงจรขึ้นลงของอุตสาหกรรมได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าแผนการเติบโตของบริษัทจะไม่ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเกิน 66% หรือเทียบเท่ากับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับ 2 เท่า บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ประกอบธุรกิจพัฒนาและขายโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ บริษัทก่อตั้งในปี 2542 โดยตระกูลเรืองกฤตยา ต่อมาในปี 2546 คุณชานนท์ เรืองกฤตยาได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ในปี 2549-2550 บริษัทได้ร่วมลงทุนกับ Pramerica Real Estate Investors (Pramerica) ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศทำการจัดตั้ง บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ วัน จำกัด (ADO) เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบ และ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด (AD2) เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยที่ Pramerica ลงทุนในสัดส่วน 95% ของเงินลงทุนทั้งหมด ส่วนบริษัทลงทุน 5% และทำหน้าที่เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการ ต่อมาบริษัทได้ซื้อกิจการทั้งหมดของ AD2 จาก Pramerica ในปี 2553 และซื้อ ADO ในปี 2555 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2555 ณ เดือนเมษายน 2556นายชานนท์ เรืองกฤตยามีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 53.1% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทมีรายได้ในปี 2555 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง โดยการพิจารณาสถานะทางธุรกิจของบริษัทนั้นครอบคลุมถึงประวัติการดำเนินงานและผลประกอบการของ ADO และ AD2 ซึ่งถือเสมือนว่าบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของทั้ง 2 กิจการมาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีบทบาทสูงในการพัฒนาโครงการให้แก่ ADO และ AD2 บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ภายในรัศมี 300 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า จุดแข็งดังกล่าวสะท้อนจากยอดขายและยอดโอนของโครงการคอนโดมิเนียม “ไอดีโอ” ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ บริษัทเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความรับผิดชอบของ AD2 ในปี 2550 โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 โครงการคอนโดมิเนียมของ AD2 ทั้งหมด 12 โครงการมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาทมียอดขายอยู่ที่ 96% ของมูลค่าโครงการ และมียอดโอนอยู่ที่ 90% ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการที่เปิดขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 มูลค่ารวม 9.6 พันล้านบาทมียอดขายอยู่ที่ 77% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 บริษัทได้เปิดโครงการ “เอลลิโอ” โดยมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อหน่วย และสามารถสร้างยอดขายได้ 874 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทลดทอนลงไปบางส่วนจากประวัติผลงานที่สั้นและขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการแนวราบ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความเสี่ยงจากการมีโครงการคอนโดมิเนียมเป็นสินค้าหลักเพียงประเภทเดียว ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทน่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความสามารถเชิงกลยุทธ์ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่อยู่อาศัยและสภาวะการแข่งขันที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นในการจัดหาแปลงที่ดินใกล้สถานีรถไฟฟ้า ฐานะการเงินของบริษัทสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่ผันผวนในระยะปานกลางเนื่องจากความไม่ต่อเนื่องในการพัฒนาโครงการในอดีตและภาระหนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับแผนการเติบโตในอนาคต ในปี 2556 บริษัทวางแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่า 2.57 หมื่นล้านบาท และนำโครงการแนวราบมูลค่า 7.3 พันล้านบาทที่เคยอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ ADO มาเปิดตัวใหม่ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.2-1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80%-90% ของรายได้ บริษัทมีมูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ 9.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าดังกล่าวน่าจะสามารถส่งมอบได้เกือบทั้งหมดภายในปี 2556 บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ในช่วงปี 2553-2555 ในระดับต่ำและผันผวนผิดปกติเนื่องจากการควบรวมโครงการของ AD2 ในปี 2553 ด้วยมูลค่ายุติธรรมซึ่งสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีอยู่ประมาณ 1.5 พันล้านบาท การซื้อ AD2 ด้วยราคาที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทในช่วงปี 2553-2555 แต่จะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญนับจากปี 2556 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกัน บริษัทน่าจะได้รับประโยชน์จากการซื้อสินทรัพย์ของ ADO ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีโดยจะช่วยให้บริษัทสามารถเสนอราคาขายที่แข่งขันได้ในโครงการแนวราบของ ADO ในระยะปานกลาง ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทจะอยู่ในระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 17% เมื่อพิจารณาถึงแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่จะเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ 35.6% ซึ่งระดับดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าปกติเนื่องจากบริษัทเพิ่งได้รับเงินสดมูลค่า 5.4 พันล้านบาทจากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้ของบริษัทจะปรับสูงขึ้นในระยะปานกลางจากการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้าง เงินทุนคาดว่าจะไม่ปรับขึ้นเกิน 66% บริษัทมีสภาพคล่องในระดับที่ยอมรับได้ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 ภาระหนี้ของบริษัทที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท อันดับเครดิตสะท้อนถึงภาระผูกพันในอนาคตที่บริษัทต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ADO มูลค่ารวม 750 ล้านบาท โดยเป็นการทยอยจ่ายจนครบภายในกลางปี 2557 สภาพคล่องของบริษัทประกอบด้วยเงินสดในมือมูลค่า 1.9 พันล้านบาทและวงเงินกู้ระยะยาวที่ยังไม่ได้เบิกใช้มูลค่า 6.3 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 รวมทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1-1.5 พันล้านบาทโดยเฉลี่ยต่อปี บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (ANAN) อันดับเครดิตองค์กร: BBB- อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 BBB- แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ