อย.เตือน อย่าใช้บอแรกซ์ในอาหาร

ข่าวทั่วไป Friday February 13, 1998 14:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--องค์การอาหารและยา
อย. วอนผู้ขายรวมทั้งผู้ผลิตอาหารคำนึกถึงมนุษยธรรม อย่านำบอแรกซ์มาใช้ผสมอาหาร เพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ หากตรวจพบสารดังกล่าวตกค้างในอาหารจะจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ผลิตหรือผู้ขายจะมีความผิดตามกฎหมาย
น.พ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน 2540 ที่ผ่านมา อย.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กทม.และอาสาสมัครโครงการคุณภาพชีวิต ได้ติดตามตรวจสอบอาหารที่จำหน่ายในท้องตลาดพร้อมทั้งส่งวิเคราะห์ที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลปรากฎว่า พบมีการใช้บอแรกซ์ในอาหารประมาณ 76 ตัวอย่าง ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น หมู ไก่ เนื้อ ปลา ชนิดบด ผลไม้ดองผลไม้แช่อิ่ม รวมทั้งขนมต่าง ๆ เช่น สลิ่ม วุ้น ลูกชุบ ทับทิมกรอบ สารบอแรกซ์ ดังกล่าว จัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก ได้แก่ น้ำประสานทอง ผงกรอบ เพ่งแซ มีลักษณะเป็นผลึก ไม่มีกลิ่น โดยทั่วไปจะพบในลักษณะเป็นเม็ดหรือผงสีขาว ละลายน้ำได้อย่างช้า ๆ ปกติแล้วจะใช้ในอุตสาหกรรมทำแก้ว การนำบอแรกซ์ใส่ในอาหาร จะทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายได้ เมื่อได้รับบอแรกซ์เข้าสู่ร่างกายจะทำให้มีอาการทางสมอง และประสาทส่วนกลาง ระบบย่อยอาหาร ตับ ไต และผิวหนัง โดยทำให้เกิดอาการพิษต่าง ๆ เช่น คลื่นไล้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจมีอาการชัก ความดันต่ำ บางคนมีอาการ ทางไตและตับอักเสบ บางรายอาจตายจากการหมดสติ โดยเฉพาะในเด็กเล็กจะเกิดอาการพิษได้ง่าย
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงขอเตือนผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารให้เห็นแก่ความปลอดภัยของผู้บริโภค อย่าได้ใช้สารบอแรกซ์โดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที โทษฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมามีผู้ได้กระทำความผิดและได้รับโทษดังกล่าวแล้วจำนวน 5 ราย ด้วยกัน ในส่วนของผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารที่มีลักษณะตามธรรมชาติหากมีลักษณะกรอบหรือแข็งจนผิดปกติ อาจมีบอแรกซ์เจือปนอยู่ จึงไม่ควรซื้อมาบริโภคโดยเด็ดขาดรองเลขาธิการฯ กล่าวย้ำในที่สุด--จบ--

แท็ก อย.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ