ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จัดกิจกรรมเล่านิทานด้วยโรงละครกระดาษสร้างเด็กไทยรักการอ่าน

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--คิธ แอนด์ คินฯ “อ่านหนังสือกันเถอะ เพื่อเปิดโลกกว้าง” คำพูดนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอ่าน เพราะเป็นการเรียนรู้ทัศนะความคิด ประสบการณ์ และจิตนาการ ของผู้เขียน ถ่ายทอดผ่านตัวอักษร และสำนวนคำคมชวนให้ติดตาม ทำให้หนังสือเปรียบเสมือนประตูเปิดสู่โลกกว้างให้กับผู้อ่าน เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้และปัญญา นับว่าการอ่านหนังสือมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะสร้างคนและสังคมให้มีคุณภาพ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย จึงได้จัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนไทยเห็นความสำคัญของการอ่าน และในปีนี้นับเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย ที่กรุงเทพมหานครได้รับเลือกให้เป็นเมืองหนังสือโลก 2013 จากองค์การยูเนสโก โดยดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ก็เป็นองค์กรภาคีเครือข่ายที่ร่วมผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหนังสือโลก จึงได้ร่วมจัดกิจกรรมสร้างสรรค์การอ่านในงาน “กรุงเทพมหานครเมืองหนังสือโลก 2556” ร่วมกับพี่ๆจากโปรเจ็คท์เด็กดี โดยการเล่านิทานแสนสนุกเรื่อง “พรเก้าประการ” ในรูปแบบ “โรงละครกระดาษ” ประดิษฐ์จากกล่องกระดาษที่ใส่เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช้แล้ว นับเป็นการใช้ของเหลือทิ้งให้เกิดประโยชน์และยังเป็นการช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย ผ่านการเล่าเรื่องด้วยตัวละครที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง นำเสนอแบบ 3 มิติ ทำให้น้องๆฟังนิทานอย่างสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว พร้อมกับเสียงกีต้าร์บรรเลงประกอบการเล่านิทานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้น้อง ๆ และผู้ปกครองร่วมกันลงมือประดิษฐ์โรงละครกระดาษตามจินตนาการด้วยตัวเอง โดยนำกล่องกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว มาประดิษฐ์เป็นโรงละครในสไตล์ต่างๆ ไว้สำหรับเล่านิทานให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลิน แทนที่จะทิ้งเป็นขยะให้สูญเปล่า พร้อมการเล่นเกมส์ตอบคำถามแจกของรางวัลอีกมากมาย “พี่หนึ่ง” จากทีมโปรเจ็คท์เด็กดี ก็ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับนิทานมาฝากกันด้วย “สาเหตุที่เด็กๆชอบฟังนิทาน ไม่ใช่เพราะนิทานให้จินตนาการเท่านั้น แต่นิทานได้สนองความต้องการของเด็กๆ ที่แฝงเอาไว้ด้วย นั่นคือ 1. ต้องการความรัก 2. ต้องการให้คนอื่นสนใจ 3. ต้องการให้ความรักแก่คนอื่น 4. ต้องการเล่น ความสนุกสนาน 5. ต้องการรับประทานอาหารอร่อยๆ 6. ต้องการสิ่งวิเศษ มหัศจรรย์ 7. ต้องการความสวยงาม 8. ต้องการสิ่งลึกลับ ผจญภัย 9. ต้องการความตลก ขบขัน และจากความต้องการของเด็ก ๆ ทั้งเก้าข้อนี้เองที่เราสามารถนำมาแต่งเป็นนิทานได้อีกเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง หรือเลือกหาสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการได้ตรงจุด หากเด็กประทับใจกับการอ่านหรือฟังเรื่องราวจากนิทานและหนังสือในครั้งแรก ก็จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกรักการอ่านให้กับเด็กคนนั้นไปจนโต” ด.ญ.ศุภิสรา พรมพุทธา หรือน้องข้าวฟ่าง นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนประชาอุทิศ หนึ่งในเยาวชนที่ชื่นชอบการอ่าน เล่าว่า “ปกติชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว โดยเฉพาะการ์ตูนและนวนิยาย สำหรับหนังสือที่ชอบคือผจญภัยในโลกคณิตศาสตร์ ครั้งแรกที่ได้อ่านหนังสือคือพี่แนะนำเข้าห้องสมุดคะ เพราะการอ่านหนังสือทำให้เรามีความรู้และสนุกสนาน ก็อยากให้เพื่อน ๆ ใช้เวลาว่างมาอ่านหนังสือกันเยอะๆ คะ” หากเด็กไทยรักการอ่าน รักการเรียนรู้มากยิ่งขึ้นเชื่อว่า นอกจากจะสร้างอนาคตที่ดีให้แก่เด็กได้ แล้วยังเป็นการสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ประเทศชาติอีกด้วย ดังนั้น ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นจัดกิจกรรมรักการอ่านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น School Visit กิจกรรมพบปะนักเขียนที่ชื่นชอบ เป็นต้น และเดินหน้าสร้างสังคมไทยให้มีไลฟ์สไตล์รักการอ่านมากขึ้น ตามที่กรุงเทพมหานครจะเดินหน้าเพิ่มพื้นที่การอ่านให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายจนเกิดเป็นนิสัย โดยตั้งเป้าเพิ่มการอ่านหนังสือจาก 5 เล่มต่อปีต่อคน เป็น 10-15 เล่มต่อปีต่อคน อันจะเป็นการสร้างความมั่งคั่งทางปัญญาให้กับประเทศไทยต่อไป ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย ตั้งอยู่บนถนนสาทร 12 ที่รวบรวมมากมายจากสำนักพิมพ์กว่า 1,000 แห่ง มีทั้งนิทาน หนังสือสำหรับเด็กและสื่อการเรียนรู้ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆได้ใช้เวลาว่างพักผ่อนกับการอ่านหนังสือร่วมกัน พร้อมกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.DoubleAbooktower.com หรือ www.facebook.com/DoubleA.Book ติดต่อ: ประชาสัมพันธ์ติดต่อ: คุณวรวิทย์ บ.คิธ แอนด์ คิน ฯ โทร. 02-663-3226 ต่อ 64