กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--IR network
CHO มีข่าวดีมาบอก เล็งปรับเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 20% จากเดิมตั้งไว้เพียง 10% หลังปริมาณงานไหลทะลักเข้าต่อเนื่องและหนุน Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 435 ล้านบาท รวมทั้งวางแผนเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก เผยไตรมาส 3 เตรียมยื่นประมูล 4 โครงการมูลค่ารวม 600 ลบ. และลุ้นรับงานจากต่างประเทศอีก 300 ล้านบาท ส่วนงานรับผลิตรถพ่วงตู้แห้งให้ DHL จะทยอยส่งมอบล็อตแรก 60 คันเร็วๆ นี้ เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3-4/56
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่าในไตรมาส 3/2556 นี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 โครงการแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์มาตรฐาน 2 โครงการ มูลค่า 420 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกแบบพิเศษ 2 โครงการ มูลค่า 180 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังรอลุ้นรับงานจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มเติม มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้รับงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก CHO ผลิตสินค้าได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ส่งมอบงานตรงตามเวลาที่กำหนด รวมถึงการบริการเป็นที่ประทับใจของลูกค้า
เมื่อผนวกกับการรับงานจาก บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DHL ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ให้ CHO เป็นผู้ผลิตรถพ่วงตู้แห้ง (Dry van Semi-Trailer) จำนวน 90 คัน มูลค่า 108.9 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบ 60 คันแรกในไตรมาส 3 นี้เช่นกัน และที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองคุณภาพจากบริษัท MAN Truck & Bus AG จากประเทศเยอรมนี ให้ความไว้วางใจ CHO เป็นตัวแทนดัดแปลงสภาพรถช่วงล่าง และแชสซีส์ตามความต้องการของลูกค้า แต่เพียงผู้เดียวในโซนเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ของบริษัททั่วโลกที่ได้รับหนังสือรับรองคุณภาพการดัดแปลงสภาพรถ ซึ่งจะส่งผลดีให้ชื่อเสียงของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางในระดับสากลมากขึ้น ได้รับการยอมรับของลูกค้าจากต่างชาติ คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดการสั่งดัดแปลงสภาพรถจากเดิมเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าปีแรกรับงานประมาณ 100 คัน
ดังนั้นจึงเตรียมปรับประมาณการเติบโตของรายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 20% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 10% เนื่องจากได้รับออเดอร์จากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มูลค่างานในมือ(Backlog) เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดขยับขึ้นมาเป็น 435 ล้านบาท จากสิ้นปี 2556 อยู่ที่ 194.37 ล้านบาท
“ปริมาณงานที่มากขึ้น ส่งผลให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 435 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท ทำให้เราปรับประมาณการในส่วนของรายได้และกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ ช.ทวีฯ ยังคงเดินหน้าหางานใหม่ๆ เพิ่มต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับงานเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 นี้”
นายสุรเดช กล่าวต่อว่า ผลจากปริมาณงานดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้ ทำให้คาดการณ์ว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัทปีนี้จะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 5% จากปีก่อนที่ 3% เนื่องจากบริษัทฯ จะได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมากและเลือกรับงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) สูง และการดำเนินธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มที่สดใสต่อไปได้อีก
นอกจากการประมูลเพื่อหางานใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องแล้ว อีกด้านหนึ่งของ ช.ทวี ยังมีงานการพัฒนาในด้านนวัตกรรม โดยบริษัทมีแผนงานเพื่อรองรับและขยายรายได้ในโครงการวิจัยและพัฒนาระบบออโตเมชั่น อันได้แก่ หุ่นยนต์ช่วยงานในโรงงานอุตสาหกรรมและหุ่นยนต์กรีดยางและเก็บน้ำยาง โดยล่าสุดได้เข้ารับทุนนวัตกรรมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม VR7 หุ่นยนต์อุตสาหกรรม 7 แกน แบบจับตำแหน่งวัตถุด้วยระบบวิชั่นสำหรับงานเชื่อม” จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) National Innovation Agency (NIA) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หุ่นยนต์ VR7 ถือเป็นหุ่นยนต์แนวคิดภายใต้การออกแบบและสร้างสรรค์โดยวิศวกรคนไทย ซึ่งถือเป็นผลงานของคนไทย การที่บริษัทได้รับทุนนวัตกรรมในครั้งนี้ จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้การพัฒนาวิศวกรรมภายใต้ฝีมือคนไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ สามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และยังมีส่วนช่วยเพิ่มอำนาจในการแข่งขันให้กับบริษัทคนไทยได้ในระดับสากล สู่การเป็นผู้นำด้านการออกแบบและสร้างสรรค์งานด้านระบบวิศวกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่อีกด้วย