กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--เวิรฟ
“อิจฉา” แล้ว...ไม่ดีตรงไหน?
“โอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้” ชวนผู้หญิงสนุกกับการเป็น “นางอิจฉา”
พร้อมค้นพบความสุขที่มากกว่า ด้วยการ “เปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลัง”
เชื่อหรือไม่ ผู้หญิง 99% ยอมรับว่า “เคย” อิจฉาคนอื่น!! เมื่อพูดถึงคำว่า “อิจฉา” สาวๆ หลายคนคงจะนึกถึง ภาพตัวละครนางร้ายในโทรทัศน์ ที่ส่งเสียงดัง โวยวาย แสดงท่าทางร้ายกาจ ระรานนางเอกไปตลอดตั้งแต่ ต้นจนจบเรื่อง ซึ่งทำให้ภาพของ “ผู้หญิงขี้อิจฉา” กลายเป็นภาพความรู้สึกที่ไม่ดี ฝังลึกอยู่ในความคิดของทุกคน ทั้งที่จริงๆ แล้วความรู้สึก “อิจฉา” ไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่เป็นความรู้สึกสากลของผู้หญิง ที่ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นนางเอก นางรอง นางร้าย ตัวประกอบ หรือผู้หญิงทั่วไป ก็ล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้เหมือนกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ “โอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้” จึงอยากชวนสาวๆ มาร่วมค้นพบมุมมองใหม่ของ “ความอิจฉา” เพื่อพบกับความสุขที่มากกว่า จากการเปลี่ยนความรู้สึก “อิจฉา” ให้กลายเป็น “พลัง” ไปด้วยกัน
นางอภัยพร ศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ. พี. เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า “เพราะโอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้ เข้าใจผู้หญิงเป็นอย่างดี ว่าต้องการใช้ชีวิตภายใต้การตัดสินใจของตนเอง โดยไม่มีกรอบข้อบังคับของสังคม หรือคนอื่นๆ มาเป็นตัวตัดสิน พร้อมทั้งยังเชื่อว่าความสนุกกับการใช้ชีวิต ในทุกมิติของ ความเป็นผู้หญิง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก แต่ด้วยกรอบข้อกำหนดต่างๆ ที่มีอยู่ ทำให้ความสุขนั้นเกิดขึ้นได้ยากกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้ “โอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้” สังคมแห่งความสุขเพื่อผู้หญิง จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้หญิงได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แรงบันดาลใจ พร้อมทั้งแบ่งปันความสุขให้กันและกัน โดยเริ่มต้นจากการ ชวนผู้หญิงลองก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ที่สร้างขึ้น พร้อมปรับเปลี่ยนมุมมองในเรื่องใกล้ตัว อย่าง “ความอิจฉา” ซึ่งเป็นความรู้สึกสากลของผู้หญิงที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องไม่ดีและไม่กล้ายอมรับ หรือแสดงออกว่าตัวเองมีความรู้สึกอิจฉาคนอื่น ทั้งที่เราสามารถค้นพบข้อดีของความอิจฉา และเปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลังได้”
และเพื่อเป็นการยืนยันถึงเรื่อง “ความอิจฉา” ว่าเป็นความรู้สึกสากลของผู้หญิง โอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้ จึงได้ ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความอิจฉา” กับผู้หญิงกว่า 200 คน พบว่า ผู้หญิงจำนวน 99% ยอมรับว่าตนเองเคยรู้สึกอิจฉาคนอื่น และในปัจจุบันก็ยังคงมีความรู้สึกนี้อยู่ โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 68 ยอมรับว่าตนเองเกิดความรู้สึกอิจฉาในเรื่องหน้าตา ความสวยความงาม ตามมาด้วยผู้หญิงอีกร้อยละ 11 รู้สึกอิจฉาในเรื่องรูปร่าง ผิวพรรณ ส่วนสูง และที่เหลืออีกร้อยละ 21 นั้น จะมีความรู้สึกอิจฉาในเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น ฐานะ หน้าที่การงาน แฟน และความสามารถ เป็นต้น นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบอีกว่า สาวๆ มีวิธีการ “เปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลัง” ด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยอันดับหนึ่งที่มีจำนวนสูงถึงร้อยละ 75 คือ การพัฒนาตนเองให้ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เรียนรู้วิธีการแต่งหน้า แต่งตัว โดยมีคนที่เราอิจฉาเป็นพลัง ตามมาด้วยอันดับสองอีกร้อยละ 15 คือการที่สาวๆ หันกลับมาพิจารณาหาข้อดีของตนเอง พร้อมสร้างแรงผลักดันในการพัฒนาข้อดีที่มีอยู่แล้ว ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนสนใจที่จุดเด่นมากกว่าจุดด้อย เป็นต้น
“จากผลสำรวจดังกล่าวทำให้เห็นว่า สาวๆ ส่วนใหญ่นั้นยอมรับว่า ตนเองเคยเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นในใจ แต่มักจะ ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกอิจฉาให้คนอื่นทราบ พร้อมทั้งพยายามจะละเลยความรู้สึกนี้ เนื่องจากการเป็น “ผู้หญิงขี้อิจฉา” นั้น ทำให้ผู้หญิงมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้วความอิจฉานั้นทำให้เราได้เจอสิ่งที่เราไม่มี และเป็นพลังให้เราเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้สมบูรณ์ได้ โอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้ จึงได้เชิญดาราสาวมากความสามารถ อย่างคุณ “ใบเฟิร์น — อัญชสา มงคลสมัย” และเซเลบริตี้รุ่นใหม่คุณ “แก้ม — สามสรา เอี่ยมเอกดุลย์” มาร่วมเผยประสบการณ์ตรง ในเรื่อง “ความอิจฉา” เพื่อเป็นไอเดียและแนวความคิดให้สาวๆ นำมาปรับใช้กับตนเอง” นางอภัยพร กล่าว
คุณใบเฟิร์น — อัญชสา มงคลสมัย นางอิจฉาคนเก่ง พูดถึงประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับมุมมองเรื่อง “ความอิจฉา” ว่า “ปกติเวลาที่เฟิร์นอิจฉาจะไม่ค่อยแสดงออก แต่จะเก็บมาคิดมากเองคนเดียวมากกว่าค่ะ ซึ่งเรื่องที่อิจฉาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผิวพรรณ เวลาที่เห็นคนผิวสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า หรือผิวกาย เราก็รู้สึกว่าอยากจะมีผิวแบบเขาบ้าง เพราะตัวเฟิร์นนั้นค่อนข้างจะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย ทำให้สิวขึ้นบ่อย เวลาถ่ายละครก็จะเห็นชัดค่ะ ซึ่งมีผลกระทบ อย่างมากกับงานของเฟิร์น ที่ต้องมีการแต่งหน้าทุกวัน ด้วยเหตุผลนี้ เฟิร์นก็จะนำความรู้สึกอิจฉาและ อยากมีผิวสวยมาเป็นเป้าหมาย และหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่ใจเรื่องการทำความสะอาดผิวหน้า เพราะเวลาเราทำงานนั้น เราต้องแต่งหน้าเยอะ ดังนั้น ไม่ว่าจะกลับจากกองถ่ายละครดึกแค่ไหน ก็ต้อง เช็ดเครื่องสำอาง ล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เพราะหากเราละเลยก็อาจจะทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้ รวมถึง การเลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวของเราเป็นประจำ เพื่อช่วยดูแลฟื้นฟูผิวหน้าของเรารวมไปถึงการดูแลสุขภาพของตัวเองจากภายใน ด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งจากที่เฟิร์นได้ลองทำมา วิธีการเหล่านี้ช่วยเฟิร์นได้มากเลยค่ะ เห็นได้ชัดจากที่ตอนนี้สุขภาพผิวหน้าดีขึ้น สิวไม่ขึ้นบ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ”
คุณแก้ม — สามสรา เอี่ยมเอกดุลย์ เซเลบริตี้เลือดใหม่ บอกเล่าเรื่องราว “ความอิจฉา” ของตนเองว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงที่แก้มกำลังมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการทำงานอยู่ค่ะ เนื่องจากเราเพิ่งเรียนจบ และเริ่มทำงานได้ยังไม่นานมากนัก ทำให้มีเรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีการบริหารจัดการ วิธีการทำงาน หรือวิธีการติดต่อกับลูกค้า ซึ่งพี่ๆ แต่ละคน เขาทำงานกันได้เก่งมาก และเราก็รู้สึกอิจฉาอยากทำงานให้เก่งได้แบบนั้นบ้าง เราจึงนำเอาความรู้สึกอิจฉาแกมยกย่องนี้ มาเปลี่ยนเป็นพลัง พร้อมสร้างเป็นแรงผลักดันให้กับตนเอง เพื่อก้าวไปสู่จุดหมายที่เราตั้งใจไว้ เพราะแก้มเชื่อว่าหากว่าพี่เขาสามารถทำได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยแก้มก็พยายามในการเรียนรู้วิธีการต่างๆ ในการทำงานให้มากขึ้น สังเกต ศึกษา พร้อมสอบถามเทคนิคการทำงานของพี่ๆ แต่ละคน ที่เขามีประสบการณ์มามากกว่าเรา พร้อมนำเทคนิคนั้นๆ มาปรับใช้กับตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพของเราให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเอาใจใส่กับงานแต่ละชิ้นที่เราทำ เพื่อให้งานนั้นๆ ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ”
สาวๆ ที่เคยอิจฉา และยอมรับว่า “ความอิจฉา” เป็นความรู้สึกสากลของผู้หญิง
สามารถมาร่วม “เปลี่ยนความอิจฉาให้เป็นพลัง”ได้ที่ www.orientalprincesssociety.com หรือwww.facebook.com/orientalprincesssociety และร้านโอเรียนทอล พริ้นเซส ทุกสาขาทั่วประเทศ
แล้วคุณจะได้รู้ว่าการเป็น “นางอิจฉา” ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอีกต่อไป...