กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--อิเมอร์สัน
มุ่งเน้นที่การควบคุมสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์เพื่อรับมือกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาดระบบปรับอากาศศูนย์ข้อมูลในเอเชียแปซิฟิก
วันนี้ อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของอิเมอร์สัน (NYSE:EMR) และผู้นำระดับโลกในการเพิ่มความเชื่อถือได้ ความเร็วในการใช้งาน และประสิทธิภาพการดำเนินงานสำหรับเครือข่ายการสื่อสารให้สูงสุด ได้ประกาศการสร้างธุรกิจใหม่ด้านการจัดการความร้อน เพื่อขยายความสามารถของบริษัทในการพัฒนาและจัดสรรวิธีแบบใหม่ที่เป็นบูรณาการเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูล
ธุรกิจจัดการความร้อนนี้รวมถึงความเชี่ยวชาญและระบบปรับอากาศ Liebert ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งช่วยจัดสรรเทคโนโลยีและโซลูชั่นสำหรับศูนย์ข้อมูลและศูนย์ปฏิบัติการไอทีทุกขนาด รวมทั้งอากาศ น้ำ และนวัตกรรมระบบปรับอากาศแบบประหยัดโดยใช้การปั๊มสารหล่อเย็น นอกจากนี้ยังมีเครื่องควบคุมชั้นเลิศและเซ็นเซอร์ไร้สายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
“ด้วยวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของระบบนิเวศน์ของศูนย์ข้อมูลและความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการไอทีต่างๆ ที่มีต่อศูนย์ปฏิบัติการของตน ทำให้ระบบปรับอากาศศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ได้รวบรวมและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ซอฟแวร์ ฮาร์ดแวร์และเครื่องควบคุมเพื่อให้สามารถจัดการความร้อนและการใช้พลังงานได้อย่างวางใจได้ มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า” คุณหลิง จีโฮ ผู้จัดการทั่วไปองค์กรจัดการด้านการตลาดในเอเชียของ อิเมอร์สัน เนทเวอร์ พาวเวอร์กล่าว “อิเมอร์สันเป็นคนแรกที่แนะนำระบบทำความเย็นให้กับอุปกรณ์ไอทีที่อยู่ในตู้เดียวผ่านทางธุรกิจ Liebert ในปี 2508 และพวกเราก็เป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มาตลอด การขยายไปสู่การจัดการความร้อนโดยรวมแสดงถึงความมุ่งมั่นของอิเมอร์สันที่มีต่อตลาดที่กำลังวิวัฒนาการไป และยังเป็นการรับมือกับความต้องการของตลาดที่มีต่อโซลูชั่นระบบปรับอากาศที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นอย่างชาญฉลาด
การประกาศครั้งนี้สอดคล้องกับ รายงานของ Frost & Sullivan ที่คาดว่าจะมีการเติบโตหนึ่งเท่าตัวของตลาดระบบปรับอากาศศูนย์ข้อมูลในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2561 จากการสำรวจ การเติบโตนี้เกิดจากการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและความต้องการบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นด้วย การพุ่งขึ้นของเครือข่ายทั่วโลกและสื่อสังคม (social media) และความต้องการธุรกรรมแบบดิจิตอลและบริการโฮสติ้งออนไลน์ ได้เร่งให้มีการสร้างศูนย์ข้อมูลต่างๆในเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น รวมทั้งกฎระเบียบที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและการปล่อยก๊าซคาร์บอน ได้ตอกย้ำความจำเป็นด้านประสิทธิภาพ สมรรถภาพโดยรวม
“สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ด้วยวิธีโดยรวมในการจัดการความร้อนเป็นการช่วยลูกค้าของเราวิเคราะห์ เข้าใจและลงมือปฏิบัติจากข้อมูลที่ได้มานั้น เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และควบคุมสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ได้อย่างซับซ้อนมากขึ้น” นายจอห์น ชไนเดอร์ ผู้ที่จะนำพาธุรกิจจัดการความร้อนทั่วโลกของอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ในฐานะรองประธานและผู้จัดการทั่วไปกล่าว “การควบคุมนั้นจะทำได้โดยใช้ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่เทคโนโลยีปรับอากาศที่ชาญฉลาดและมีประโยชน์หลายอย่าง ไปจนถึงการให้ข้อมูล”
ระบบโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลวันนี้ได้ใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์ทั้งแบบมีสายและไร้สายเพื่อสังเกตการณ์สมรรถภาพของอุปกรณ์และสภาวะสิ่งแวดล้อม และพร้อมจัดการข้อมูลเหล่านั้น ความสามารถเหล่านี้ไม่เคยมีมาก่อน แม้กระทั่งวันนี้ ความชาญฉลาดที่เสริมขึ้นมานี้ส่วนมากจะจมอยู่กับกองข้อมูลที่ท่วมท้น
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจจัดการความร้อนของอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ หรือเทคโนโลยีอื่นๆ หรือโซลูชั่นจากอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ได้ที่ www.EmersonNetworkPower.com