กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงการจัดงาน “หยาดน้ำจากฟ้า วิถีปราชญ์ตามรอยพระบาท นำเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาคมอาเซียน” ว่า “ปราชญ์ชาวบ้านเป็นบุคคลที่มีค่าทางภาคการเกษตรของเรา เพราะท่านเหล่านี้เป็นทรัพยากรและบุคคลที่มีทั้งความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและทักษะการใช้ชีวิตในแบบพึ่งพาตนเองได้อย่างเหมาะสมกับสภาพภูมินิเวศ ภูมิสังคมสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมในท้องถิ่นของเรา มีการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางดำเนินชีวิตจนประสพผลสำเร็จ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละทิ้งในการแสวงความรู้ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เป็นประโยชน์ โดยนำหลักการทั้งสองแนวมาผสมผสานในการใช้ รวมทั้งถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นให้แก่ผู้อื่นอย่างเต็มใจ”
“ถึงวันนี้ เป็นเวลา 7 ปีที่แล้ว ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับความร่วมมือจากปราชญ์ชาวบ้านให้มีการดำเนินงานเพื่อถ่ายทอดความรู้สู่ผู้อื่นในรูปของ “ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน” และเครือข่าย เพื่อให้เกษตรกรและผู้คนในแต่ละชุมชนที่ต้องการปรับเปลี่ยนแนวคิด วิธีการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้เข้าไปรับความรู้เพื่อนำไปใช้เป็นหลักปฏิบัติในชีวิต โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถึงขณะนี้เรามีเกษตรกรที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์เครือข่ายศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านได้มีการนำความรู้นั้นๆไปปฏิบัติ ทำให้เกิดการสร้างฐานชีวิตที่ดี สามารถลดรายจ่าย ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู วิถีชีวิตของคนในชุมชนมีทางเลือกที่ดีมากขึ้น มีความร่วมมือกันแก้ไขปัญหาส่วนรวมมากขึ้น รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีชาวบ้านมาปรับใช้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น”นายยุคล กล่าว
ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดงาน “หยาดน้ำจากฟ้า วิถีปราชญ์ตามรอยพระบาท นำเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาคมอาเซียน” ขึ้น ระหว่างวันที่ 20 — 22 กันยายน 2556 นี้ ที่ MCC HALL ชั้น 4 ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนได้มีโอกาสมาสัมผัสกับแนวความคิด วิธีการปฏิบัติ และความรู้ต่างๆจากปราชญ์ชาวบ้านทั่วประเทศ จำนวนกว่า 150 ท่าน ซึ่งจะมาร่วมกันขับเคลื่อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของทุกผู้คนไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่กำลังจะเคลือบคลานไปสู่ประชาคมอาเซียน ภายในงานแบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 ส่วนประกอบด้วย นิทรรศการ ชุด “ฝนหลวง หยาดน้ำจากฟ้า น้ำพระราชหฤทัยพ่อของแผ่นดิน” “วิถีปราชญ์ตามรอยพระบาทพ่อของแผ่นดิน” “รู้จักอาเซียน รู้จักตัวเรา” “นำเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาคมอาเซียน” การแสดงองค์ความรู้และจำหน่ายสินค้าจากศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านกว่า 30 ศูนย์ การสาธิต ฝึกอบบรมอาชีพ เช่น ปั้นสมุนไพรให้เป็นยา สานตอก (พลาสติก)เป็นตะกร้า หยอดไข่ให้ทอง ปั้นน้ำให้เป็นพลังงาน เลือกพันธุ์ก่อนปลูก เลือกข้าวก่อนกิน บ้านกินได้ ฯลฯ การเสวนาและประชุมเชิงปฏิบัติการ เช่น “ผลกระทบและแนวทางปรับตัวในภาคการเกษตรจาการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน” “การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่สู่การเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง” เป็นต้น