โพลล์สำรวคความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิดการเก็บภาษีคนโสดและการเข้าสู่สังคมวัยชรา

ข่าวทั่วไป Wednesday October 2, 2013 14:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม โพลล์สำรวจความเห็นของประชาชนเรื่องแนวคิดการจัดเก็บภาษีคนโสด/ปัญหาการเข้าสู่สังคมวัยชรา ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ,ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องแนวคิดการจัดเก็บภาษีคนโสดและการเข้าสู่สังคมวัยชราของประเทศไทย จากประชาชนทั่วไปจำนวน 1,053 คน ระหว่างวันที่ 22-27 กันยายน 2556 สืบเนื่องจากปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเริ่มได้รับความสนใจและถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันที่กลุ่มหญิงชายรุ่นใหม่เริ่มมีการแต่งงานมีครอบครัวที่ช้าลงรวมถึงมีจำนวนบุตรที่ลดลงด้วย สาเหตุประการสำคัญคือสภาพการดำรงชีวิตในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป สังคมเมืองมีการขยายตัว มีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกด้านการทำงานมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมากเหมือนสมัยก่อน ประกอบกับการดำรงชีวิตที่เร่งรีบและค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงทำให้กลุ่มหญิงชายในหลายประเทศมีการแต่งงานช้าลงแต่อยู่เป็นโสดมากขึ้น ขณะเดียวกันบางประเทศเริ่มประสบปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ซึ่งรัฐบาลในหลายประเทศเริ่มตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและเริ่มกำหนดมาตรการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเช่นกัน สำหรับประเทศไทย ในระยะหลังนี้จากข้อมูลสถิติพบว่ากลุ่มหญิงชายรุ่นใหม่มีอายุเฉลี่ยที่จะแต่งงานและมีบุตรช้าลง ขณะที่จำนวนบุตรที่มีก็เพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น ความแออัดในการอยู่อาศัย และการแข่งขันในการหารายได้ จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้กลุ่มหญิงชายตัดสินใจอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักวิชาการด้านสังคมศาสตร์และประชากรศาสตร์จึงแสดงความห่วงใยถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งจะส่งผลให้ประเทศขาดแคลนแรงงาน และต้องเสียงบประมาณในการดูแลสวัสดิการมากขึ้น หลายฝ่ายจึงเสนอแนวคิดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นรวมถึงรณรงค์ให้กลุ่มหญิงชายรุ่นใหม่หันมาแต่งงานมีครอบครัวกันมากขึ้น ซึ่งแนวคิดหนึ่งคือการเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีคนโสด แต่อย่างไรก็ตาม การเสนอแนวคิดดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคม โดยข้อวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ออกไปในทางตำหนิ แต่ก็มีบางส่วนที่เห็นด้วย ทั้งนี้การเสนอแนวคิดดังกล่าวเพื่อกระตุ้นให้คนโสดหันมาแต่งงานมีครอบครัวรวมถึงมีบุตรเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต จากประเด็นเรื่องแนวคิดการจัดเก็บภาษีคนโสดกับการแต่งงาน/มีครอบครัวและปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นต่อการเสนอแนวคิดจัดเก็บภาษีคนโสดกับปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและปัจจัยที่มีผลกับการตัดสินใจมีครอบครัว/แต่งงาน ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ได้ผลสรุปออกมาเป็น 3 ด้าน ดังนี้ในด้านเหตุผลและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจแต่งงาน/มีครอบครัวนั้น สำหรับเหตุผลสำคัญที่กลุ่มตัวอย่างยังไม่แต่งงาน/มีครอบครัวสูงสุด 5 อันดับได้แก่ ยังอยากใช้ชีวิตเป็นอิสระอยู่ คิดเป็นร้อยละ 77.49 ตนเอง/คู่รักยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว/แต่งงาน คิดเป็นร้อยละ 75.21 ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ คิดเป็นร้อยละ 73.03 สภาพสังคมที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้มีครอบครัว/แต่งงาน คิดเป็นร้อยละ 69.71 และยังไม่อยากสร้างภาระให้ตนเองเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 68.19 ส่วนปัจจัยที่มีผลกับการตัดสินใจของกลุ่มตัวอย่างที่จะแต่งงาน/มีครอบครัวสูงสุด 5 อันดับได้แก่ ความพร้อมของตนเอง/คู่รักที่จะมีครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 78.25 ความพร้อมทางด้านฐานะทางการเงิน คิดเป็นร้อยละ 77.02 ความมั่นคงในหน้าที่การงาน คิดเป็นร้อยละ 74.64 ความมั่นใจในการดูแลครอบครัวให้มีคุณภาพ คิดเป็นร้อยละ 71.23 และภาระที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น ค่าใช้จ่าย การแบ่งเวลา คิดเป็นร้อยละ 68.47 ส่วนในด้านความคิดเห็นต่อปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 54.89 ระบุว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 46.15 ไม่เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 41.31เชื่อ ส่วนผลเสียสำคัญสูงสุด 3 อันดับที่กลุ่มตัวอย่างระบุว่าเกิดจากปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงอายุได้แก่ ขาดแคลนแรงงานที่มาพัฒนาประเทศ คิดเป็นร้อยละ 78.06 ต้องเสียงบประมาณดูแลสวัสดิการมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 76.73 และเกิดความห่างเหินระหว่างสมาชิกในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 68.66 และในด้านความคิดเห็นต่อการเสนอแนวคิดให้จัดเก็บภาษีคนโสดเพื่อกระตุ้นให้คนแต่งงาน-มีครอบครัว-มีบุตรนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 88.41 ไม่เห็นด้วยกับการเสนอแนวคิดให้จัดเก็บภาษีคนโสด ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 4.94 เห็นด้วย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 86.71 เห็นว่าการจัดเก็บภาษีคนโสดไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้คนอยากแต่งงาน/มีครอบครัว/มีบุตรมากขึ้นได้จริง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.17 เห็นว่าช่วยกระตุ้นได้ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 76.45 เห็นว่าการเสนอแนวคิดให้จัดเก็บภาษีคนโสดไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้สังคมหันมาตระหนักถึงปัญหาการเข้าสู่ยุคประชากรวัยสูงอายุของสังคมไทย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 88.22 เห็นว่าแนวคิดการจัดเก็บภาษีคนโสดเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมในการแก้ปัญหาการเข้าสู่ยุคประชากรวัยสูงอายุของสังคมไทย แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างประมาณสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 75.88 เห็นว่าสังคมไม่ควรตำหนินักวิชาการที่เสนอแนวคิดให้มีการจัดเก็บภาษีคนโสด สื่อมวลชนที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือประสานงาน : สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) ได้ที่ 1.ศ. ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส โทร. 08 1621 4526 หรือ 0 2878 5089 E-Mail. Charmonman@Gmail.com 2. อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ โทร. 08 1903 2299 E-Mail. President@SiamTechU.net 3. ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 08 1899 2683 หรือ 0 2878 5058 4. ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 0 2955 4949 5.อาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 08 9106 0460 ติดต่อ: 1.ศ. ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส โทร. 08 1621 4526 หรือ 0 2878 5089 E-Mail. Charmonman@Gmail.com 2. อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ โทร. 08 1903 2299 E-Mail. President@SiamTechU.net 3. ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 08 1899 2683 หรือ 0 2878 5058 4. ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 0 2955 4949 5.อาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ โทร. 08 9106 0460

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ