กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--ธ.กรุงเทพ ธนาคารกรุงเทพประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.1 ทั้งนี้เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ดีขึ้น ในช่วง 6 เดือนแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 11,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจำนวน 7,612 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2547 ในไตรมาสที่ 2 นี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลง 429 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2548 นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า การดำเนินงานของธนาคารยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจและคาดว่าการเจริญเติบโตของเงินให้สินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ “ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจในระดับมหภาคจะอ่อนตัวลง แต่ภาคธุรกิจยังคงมีอุปสงค์ทางด้านสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อของธนาคารในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.7 จากสิ้นปีที่แล้ว” ธนาคารมีสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 25,408 ล้านบาท จาก 932,940 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2547 เป็น 958,348 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ในครึ่งปีแรก รายได้ดอกเบี้ยของธนาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,152 ล้านบาท ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 ในครึ่งปีแรก ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 “รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารที่มุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความหลากหลายให้แก่ลูกค้าในแต่ละกลุ่ม” นายชาติศิริกล่าว ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สาเหตุสำคัญคือธนาคารได้ปรับเงินเดือนขึ้น ในขณะที่รายจ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการด้อยค่าของสินทรัพย์ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 15.8 ของยอดสินเชื่อรวม โดยมียอดลดลงจาก 158,676 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2547 เป็น 153,918 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2548 โดยในงวดแรกปีนี้ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 2,057 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 106,996 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 69.5 ของยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ธนาคารมียอดเงินฝากรวมลดลง 5,504 ล้านบาท เป็น 1,180,608 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคารเพิ่มขึ้น 17,204 ล้านบาท เป็น 132,170 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2548 โดยส่วนหนึ่งเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าของที่ดินและอาคารของธนาคารจำนวน 5,121 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการประเมินราคาที่ดินและอาคารของธนาคารทุกรอบ 5 ปีตามข้อกำหนดของทางการ เมื่อนับรวมผลกำไรในครึ่งปีแรกของปี 2548 นี้ ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงประมาณร้อยละ 15.2 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ประมาณร้อยละ 12.0--จบ--