กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--ทริปเปิลเอท ไอเดียส์
หากพูดถึงหนังผีฟิลิปปินส์ แฟนหนังผีชาวไทยอาจไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ทั้งๆที่ความเชื่อเรื่องผีสางของชาวฟิลิปปินส์นั้นหยั่งรากลึกไม่ต่างจากของคนไทยเลย และที่สำคัญวงการหนังสยองขวัญของฟิลิปปินส์ก็โด่งดังและเฟื่องฟูไม่น้อยไปกว่าหนังผีในเมืองไทยเอง จะเห็นได้จากการสร้างหนังแนวนี้ออกมาจำนวนมากในแต่ละปี และมีผู้กำกับที่ขึ้นชื่อในการทำหนังสยองขวัญ อย่าง “แยม ลารานาส”(Yam Laranas)ซึ่งล่าสุดได้พาหนังสยองขวัญเรื่อง The Road (2011) คว้าคำชมจากนักวิจารณ์ไปอย่างล้นหลาม เห็นอย่างนี้แล้ว ช่องThrillแหล่งรวมความบันเทิงสยองขวัญตลอด 24 ชั่วโมงจึงไม่พลาดขอนำอีกหนึ่งหนังสยองขวัญผลงานการกำกับของเจ้าตัวมาสู่สายตาคุณผู้ชมให้พิสูจน์อย่าง “Patient X”ซึ่งจะออกอากาศคืนวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ เวลา 20.00 น. Thrill ออกอากาศช่อง 53 ทางซีทีเอชCTH และช่อง 505TOT iptvอีกหนึ่งในโปรแกรมเทศกาลหนังผีAsian Fun Fest ที่ทางช่องThrillจัดขึ้นเพื่อต้อนรับฮัลโลวีนตลอดเดือนตุลาคมเมื่อทีมงานเราได้มีโอกาสนั่งคุยกันอย่างเป็นกันเองกับผู้กำกับคนเก่งรายนี้ จึงขอนำเสนอมุมมองในการทำหนังผีและการทำงานในหนังเรื่องPetient Xมาให้คอหนังผีได้อัพเดทกัน
บทสัมภาษณ์ ผู้กำกับ แยม ลารานาส(หนังเรื่อง Patient X จากฟิลิปปินส์ )
1) หนังของคุณอย่าง The Road ได้ฉายในช่วงเทศกาลAsian Fun Festรวมสุดยอดหนังสยองขวัญทั่วเอเชียเมื่อปีที่แล้ว ส่วน Patient Xก็ยังได้ฉายใน Asian Fun Festของปีนี้อีก คุณรู้สึกอย่างไรที่หนังของคุณได้ฉายถึงสองปีซ้อน เป็นตัวแทนหนังสยองขวัญจากฟิลิปปินส์?
ดีมากครับ ผมว่าคงเป็นที่สไตล์การทำหนังของผมกับเนื้อเรื่อง ทำให้เห็นว่ามันมีคนดูหนังสไตล์ที่ผมทำอยู่จริงๆ ไม่ใช่แค่หนังผีทั่วไปที่คุ้นเคยกัน
2) หนังเรื่อง “Patient X” ว่าด้วยเรื่องของลูคัสเอสกูเอร่า ผู้ที่ถูกโศกนาฏกรรมชีวิตในอดีตตามหลอกหลอนคุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากภาพฉาวคุกอาบูกราอิบในอิรัก บวกกับตำนานผีพื้นบ้านของฟิลิปปินส์อย่าง “อัสวัง” (ผีดูดเลือดคล้ายแวมไพร์) คุณช่วยเล่าหน่อยสิ
ภาพคุกอาบูกราอิบยังติดตาผมอยู่เลย เพราะความรุนแรงและความทรมานที่นักโทษอิรักได้รับ ผมนำสิ่งเหล่านี้มาอยู่ในบทหนังตอนทรมานตัวละครที่ถูกสงสัยว่าเป็นผีอัสวัง ในเรื่องก็เปรียบว่าผีอัสวังเหมือนนักโทษที่ฆ่าคน ทั้งๆที่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาผิดจริงหรือเปล่า ผีอัสวังในหนังจะถูกจับทรมานสารพัด ผมตั้งใจทำให้คนดูเห็นใจผีอัสวังน่ะ
3) ถ่ายทำหนังเรื่องนี้กันที่ไหน ที่Capiz หรือเปล่า? (Capizเป็นจังหวัดหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่เล่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดผีอัสวัง)
เราถ่ายทำกันในตึกร้างที่ Marikinaเราตกแต่งตึกให้มันดูเหมือนตึกใหม่ โดยทำให้ได้อารมณ์ของตัวหนัง ส่วนฉากด้านหน้าของตัวตึกโรงพยาบาล เราใช้วิธีจำลองโมเดลขนาดเล็กขึ้นมาน่ะครับ
4) เราได้ยินมาว่า ฮาร์ท อีวานเจลิสต้า ต้องฝันร้ายหลังจากการถ่ายทำวันแรกและถอนตัวจากหนังเรื่องนี้ไปเพราะเรื่องสุขภาพ โดยได้คริสทีนเรเยสมาเสียบแทน หรืออย่างมีเรียม เควียมบาว ก็หลอนจนเอาไปฝันร้ายขณะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ คุณมีวิธีจัดการกับปัญหาในกองถ่ายอย่างไร?
ในฐานะผู้กำกับ ผมต้องใส่ใจกับนักแสดงทุกคนอยู่แล้ว ผมไม่รู้ว่าทำไมฮาร์ทถึงฝันร้ายเธออาจจะไม่ชินกับหนังผีหรือไม่เธอก็อินกับบทมากมั้งครับ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องลุยถ่ายหนังให้เสร็จไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โดยได้คริสทีนมารับบทแทนฮาร์ทน่ะ
ส่วนมีเรียม ที่เธอฝันร้ายก็เพราะว่าบทที่เธอได้รับนั้นหนักหนาเอาการทีเดียว เพราะทั้งต้องถูกผูกกับสลิงดึงขึ้นลงกลางสายฝนตอนเข้าฉาก ซึ่งส่วนใหญ่เธอจะต้องเล่นฉากเหล่านี้คนเดียว อีกอย่างมีเรียมเองก็เป็นนักแสดงที่จริงจังกับงานมาก ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเก็บเอาไปฝันล่ะมั้งครับ
5) มีเรื่องท้าทายอื่นระหว่างการถ่ายทำอีกหรือเปล่า เรื่องไหนที่เล่นเอาคุณจำไม่ลืมบ้าง?
ทำหนังทุกเรื่องก็จะมีความท้าทายในตัวมันเองอยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ เราถ่ายอยู่แต่ในตึกที่ว่าทั้งเรื่อง คืนๆหนึ่งเราต้องถ่ายหลายฉาก คงเป็นเรื่องของความต่อเนื่องน่ะครับที่ต้องทำงานกันหนักหน่อย เราต้องใส่ใจเรื่องเมคอัพ เรื่องเอฟเฟค โดยเฉพาะความต่อเนื่องของอารมณ์นักแสดงที่ต้องอาศัยกลเม็ด อีกเรื่องคือการถ่ายทำฉากไฟไหม้ที่ต้องอาศัยเรื่องมุมกล้องหลายตัว
ส่วนความท้าทายคงเป็นฉากที่คนต้องสู้กับผีอัสวังกลางสายฝน เราต้องพยายามไม่ทำให้มันออกมาดูเป็นหนังแฟนตาซี เราอยากทำให้มันออกมาดูเป็นเรื่องผีจริงๆเลยมากกว่า
6) ดูเหมือนว่าคุณจะเชี่ยวชาญในการทำหนังแนวสยองขวัญ อะไรที่ทำให้คุณติดใจกับหนังแนวนี้?
จริงๆแล้วก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรหรอก ผมชอบแนวดราม่ามากกว่าด้วยซ้ำ แต่ผมชอบการเล่าเรื่องที่เล่นกับอารมณ์คนดูไม่ว่าจะเศร้าหรือน่ากลัวก็ตาม เวลาทำหนังสยองขวัญมันเหมือนไปได้สุดในทางตัวเอง แต่อย่างเรื่อง The Roadที่ผมทำ จะดราม่ามากกว่า ส่วน Patient Xจะโหดน้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่เราผูกเรื่องไว้ด้วยความขัดแย้งและความรักไว้นิดหน่อย ส่วนในอนาคตผมอยากทำหนังเกี่ยวกับเรื่องหลอนๆทางจิต เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ โดยจะมีความเป็นดราม่ามากขึ้นด้วย
7) อัพเดทงานที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้หน่อยสิ
ตอนนี้ผมเขียนบทหนังภาษาอังกฤษอยู่ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งให้ลอสแองเจลลิส อีกเรื่องเป็นเรื่องที่ผมจะทำกับค่ายGMAที่ผมร่วมกันทำ The Roadน่ะ หวังว่าจะได้เริ่มเปิดกล้องกันปลายปีนี้ หรือไม่อย่างช้าก็ต้นปีหน้าน่ะครับ