วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” “ทำดินให้เป็นดิน ทำดินให้มีชีวิต” เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ให้เกษตรกร

ข่าวทั่วไป Thursday January 23, 2014 15:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เกษตรกรถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร และด้านพลังงานให้กับประเทศไทย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ภายในประเทศ ล้วนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก สำหรับพื้นที่เพาะปลูกในประเทศไทย ที่ผ่านมาถูกยกย่องว่า เปี่ยมล้วนไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชชนิดต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง ทว่าที่ผ่านมา การทำเกษตรกรรมในบ้านเรา กลับหันไปพึ่งสารเคมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผืนดินที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุถูกทำลายลงไปทีละนิด จนอาจเรียกได้ว่า “สารเคมีเริ่มปลิดชีวิตผืนดิน” ลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีเกษตรกรบางกลุ่มที่ “ไหวตัวทัน” หันกลับมาเล็งเห็นคุณค่าของผืนดิน และพยายามสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ดี และมีคุณภาพมาปรับสภาพผืนดิน กระตุ้นแร่ธาตุในดินให้กลับคืนมามีชีวิต เพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับพืชสวน ไร่นาที่เพาะปลูก ไว้ทำกินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง “พรรณี เงินเลี่ยม” เกษตรกรชาวสวน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตอาจารย์สอนวิชาภาคการเกษตรของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่หันมามองเห็นคุณค่าของการบำรุงดิน เพื่อสร้างธาตุอาหารด้วยอินทรียวัตถุ หลังเกษียณอายุราชการ ซึ่งเรื่องราวของเกษตรกรชาวสวนรายนี้ เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะหลังจากหันมามุ่งปรับสภาพดิน ด้วยผลิตภัณฑ์ วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” สินค้าในไลน์เกษตรของ “บริษัท ไรเดอร์ พลัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ผลลัพธ์ที่ออกมา สร้างมูลค่าในแง่ของรายได้ให้กับเธออย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ที่มีกว่า 500 ไร่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการใช้วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” เกษตรกรชาวสวนรายนี้ เก็บผลผลิตของปาล์มน้ำมันได้ 25-30 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน แต่หลังจากใช้วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” ไปได้สักระยะ ผลผลิตที่ได้กลับเพิ่มขึ้นทวีคูณ สูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 50-60 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน และทำสถิติสูงสุดพุ่งขึ้นถึง 64 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ซึ่งการหันกลับมาฟื้นฟูสภาพผืนดินเพาะปลูกของ “พรรณี เงินเลี่ยม” ในครั้งนี้ มีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะทำให้เกษตรกรรายนี้ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากเธอจะนำวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” ไปใช้กับสวนปาล์มน้ำมัน ที่เป็นรายได้หลักแล้ว เกษตรกรรายนี้ ยังนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ไปใช้กับสวนผลไม้ชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนผลผลิตสร้างรายได้เสริมขึ้นมาอีกช่องทางหนึ่งด้วย โดยเฉพาะสวนมังคุดที่ในช่วงที่ผ่านมามีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 180-200 บาท *ก่อนที่จะหันกลับมาฟื้นฟูสภาพผืนดิน “พรรณี” เล่าว่า ก่อนที่จะหันมาฟื้นฟูสภาพดินด้วยวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน “อาชาทอง” ตนได้ตัดสินใจเข้ามาปลูกสวนปาล์มน้ำมันหลังจากเกษียณอายุราชการ เพราะอยากจะลองดูว่าเป็นชาวสวนแล้วจะได้ผลไหม ใช้เวลาตัวสินใจอยู่นานจึงเริ่มทำ โดยพื้นที่เพาะปลูกในปัจจุบันที่ อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช สภาพดินแถบนี้เป็นดินเปรี้ยว โดยเริ่มต้นจากการซื้อที่ 100 กว่าไร่ ปลูกไปด้วยและซื้อที่เพิ่มด้วย กระทั่งปัจจุบันมีกว่า 580 ไร่ โดยแบ่งปลูกพืชชนิดอื่นๆ ด้วย 60 ไร่ และได้ลองปลูกปาล์มฯ ดู ซึ่งในช่วงลองผิดลองถูกในการปลูกมาโดยตลอด ก็ได้มีการทดลองใช้ปุ๋ยมาหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะได้ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 22-24 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ซึ่งยังไม่ค่อยตรงตามที่ต้องการ จนวันหนึ่งได้พบกับพี่ที่นับถือท่านหนึ่งแนะนำให้รู้จักกับผลิตภัณฑ์วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน อาชาทอง จึงตัดสินใจทดลองใช้ โดยไม่ได้คาดหวังผลผลิตอะไรมากนัก *ใช้ผลิตภัณฑ์ “อาชาทอง” ผืนดินเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัด ในครั้งแรกที่ได้ปรึกษากันในเรื่องของผลผลิตที่ไม่ได้ตามที่ต้องการ คนที่แนะนำก็ได้เข้ามาเยี่ยมในสวนปาล์มฯ พร้อมทั้งแนะนำให้รู้จักกับวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน อาชาทอง และบอกให้ทอลองใช้ดู โดยชี้ให้เห็นว่า วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน อาชาทองนั้น สามารถปรับสภาพดินที่เป็นดินเปรี้ยวได้ดี จึงทดลองใช้ดูประมาณ 7 วัน ก็เห็นผลได้ทันตา สภาพของดินมีการร่วนซุย และที่สำคัญมีไส้เดือนอยู่เต็มรอบต้น เพราะตอนที่หว่านนั้นอยู่ในช่วงที่ฝนตก ดินยังแฉะอยู่ วัสดุปรับปรุงบำรุงดินที่หว่านไปจึงซึมซับเข้าไปในดินและเกิดมีไส้เดือนขึ้นมาแทน “ผลที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ทำให้เราคิดว่า ปาล์มฯ ที่ได้รับธาตุอาหารจากวัสดุปรับปรุงบำรุงดินที่หว่านลงไป ต้องงามแน่ๆ เพราะมีไส้เดือนที่ช่วยซอนไซ และก็จริงอย่างที่คิดไว้ สวนปาล์มที่ใช้วัสดุปรับปรุงบำรุงดินได้รับผลดีเต็มที่จริงๆ ซึ่งสถิติที่จดบันทึกไว้ ตัดครั้งแรกได้ผลผลิตมาถึง 27 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ซึ่งถือว่าสูงที่สุด และก่อนที่จะเก็บผลผลิตในรอบที่สอง ก็ใส่วัสดุปรับปรุงบำรุงเพิ่มตามปกติ พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็ได้ถึง 28 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ในตัดครั้งที่สามก็ได้ถึง 32 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ในรอบที่สี่ได้ถึง 34 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน ซึ่งถือว่าได้เยอะมาก และได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ *ปลื้มผลผลิตเพิ่มทวีคูณ ทำลายสถิติสูงถึง 64 ตัน/150 ไร่/รอบการตัด 15 วัน วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน อาชาทอง นอกจากจะไปช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับต้นปาล์มฯ ที่มีความสมบูรณ์ ให้มีทะลายที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังไปช่วยต้นปาล์มที่ไม่สมบูรณ์ให้ออกทะลาย และมีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย กระทั่งปัจจุบัน ก็มีการใส่วัสดุปรับปรุงบำรุงดิน เพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องปรากฏว่า ทะลายปาล์มของแต่ละต้นออกมาเต็มหมดเลย ต้นดูสมบูรณ์มากขึ้น ตอนนี้ใส่หมดทุกแปลงทั้ง 580 ไร่ ซึ่งก็ยังให้ผลผลิตดีในทุกไร่ และเคยได้รับผลผลิตสูงสุดถึง 64 ตัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เห็นได้ชัด หลังการใช้วัสดุปรับปรุงบำรุงดินอาชาทองไปแล้วนั้นคือ ใบที่แผ่ออก ทะลายก้านใหญ่ขึ้น ทำให้เวลาเอาผลออกก็ง่ายต้นไม่ช้ำ ใบก็เป็นสีเขียว ซึ่งในผลผลิตแต่ละครั้งเป็นที่น่าพอใจ ปัจจุบัน จึงใช้ผลิตภัณฑ์ วัสดุปรับปรุงบำรุงดินอาชาทองกับพืชทุกชนิด และได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ และเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แท็ก เกษตรกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ