กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--กระทรวงวัฒนธรรม
ดร.ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมตรวจติดตามการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และขอนแก่น เมื่อเร็วๆนี้ ว่า จังหวัดเหล่านี้มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และแหล่งโบราณคดีมากมาย ซึ่งถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่นำมาสร้างสรรค์ และพัฒนาต่อยอดในการเสริมสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน รวมทั้งในปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนอยู่เป็นจำนวนมาก ที่เป็นแหล่งเรียนรู้สืบทอดเรื่องราวของประวัติศาสตร์ชุมชน และมีประโยชน์ทางด้านการศึกษาของอนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่เสริมสร้างรายได้แก่ชุมชน ผ่านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ขณะเดียวกัน ยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนบางแห่ง ขาดระบบการบริหารจัดการที่ดีพอ เช่น รูปแบบการจัดวางสิ่งของไม่ดึงดูดใจ และการจัดเก็บไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ เนื่องจากยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารจัดการ
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ตนจึงได้มอบนโยบายให้สำนักศิลปากรที่ตั้งอยู่ส่วนภูมิภาค ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อหารือร่วมกันในการผลักดันให้ อปท. มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งนักโบราณคดี หรือสถาปนิก มาช่วยบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ และให้ความรู้แก่คนในชุมชน โดยให้สำนักศิลปากรให้การสนับสนุนในด้านองค์ความรู้อีกทางหนึ่ง เพื่อยกระดับให้พิพิธภัณฑ์มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในการเป็นศูนย์รวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน สู่การเพิ่มศักยภาพในการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้เกิดความรักความหวงแหนวัฒนธรรมและไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง นอกจากนี้ ตนยังมอบหมายให้กรมศิลปากร ดำเนินการปรับโครงสร้างให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในส่วนภูมิภาคที่ดำรงตำแหน่งในระดับชำนาญการ (ซี 7) เป็นผู้อำนวยการชั้นต้น หรือระดับชำนาญการพิเศษ (ซี 8) ซึ่งนายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร ได้ตอบรับและยินดีที่จะดำเนินงานตามนโยบายและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 60 วัน
กลุ่มประชาัสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม โทรศัพท์ 02 422 8851 - 8
โทรสาร 02 422 8853