ปภ.รายงานคุณภาพอากาศ ลำปาง แพร่ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ น่าน ตาก อยู่ในระดับต้องเฝ้าระวัง สั่งคุมเข้มดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง ลดระดับความรุนแรงของหมอกควัน

ข่าวทั่วไป Thursday February 27, 2014 15:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10 ) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 12 – 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ผ่านมามากนัก โดยพื้นที่จังหวัดลำปางและแพร่ คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่จังหวัดน่าน ตากอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัดภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้มมิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาทุกชนิด เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศของ 9 จังหวัดภาคเหนือกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 12 - 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับดีถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ผ่านมามากนัก โดยจังหวัดลำปาง และแพร่ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ บริเวณสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ค่า PM10 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ (ค่า AQI อยู่ที่ 107) บริเวณสถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ ค่า PM10 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ดัชนีคุณภาพอากาศ (ค่า AQI อยู่ที่ 103 ) ขณะที่บริเวณการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน สถานีอุตุนิยมวิทยาแม่สอด จังหวัดตาก ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอยู่ในระดับเฝ้าระวัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้มมิให้มีการเผาในที่โล่ง โดยเฉพาะการเผาริมทาง การเผาในพื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันมิให้วิกฤตมากขึ้น พร้อมระดมรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณหมอกควันฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงบูรณาการทุกภาคส่วนสนธิกำลังในการระดมวัสดุอุปกรณ์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปาก และจมูก เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควัน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ