กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,332 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,324 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.60 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,500 บาท กับ 20,600 บาท และกลับมาปิดที่ 20,450 บาท กับ 20,550 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 826 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,506 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4% GFJ14 ปิด 20,590 บาท และ GFM14 ปิด 20,670 บาท GF10J14 ปิดที่ 20,580 บาท GF10M13 ปิดที่ 20,660 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,321.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 11.1 เซ็นต์ ปิดที่ 21.24 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 803.7 ตัน(เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 19 เซ็นต์ ปิดที่ 102.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 49.06 จุด ปิดที่ 16,321.71 จุด
ข่าวที่สำคัญ
รายงานบลูมเบริ์กกล่าวว่า ราคาทองคำทะยานตัวขึ้นในเช้านี้เนื่องจากผลความตึงเครียดในสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครนและรัสเซียผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยต่อการถือครอง
SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิม 803.70ตัน
ทางการจีนได้รับผลกระทบจากตลาดเกิดใหม่สำหรับตลาดเช้านี้จึงส่งผลให้จีนเพิ่มการถือครองทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นในระบบของการคลังขณะที่ทางสหรัฐฯก็จะยังคงนโยบายลดเม็ดเงินอัดฉีดลงอยู่ในเวลานี้
ผลสำรวจจากคิทโก้ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสรุปผลรายสัปดาห์โดยมีผู้ร่วมทำความสำรวจกลับมองทิศทางทองคำเป็นภาวะหมีขาลงในสัปดาห์นี้เป็นส่วนมาก สำหรับสัปดาห์นี้มีการตอบรับทั้งหมด 19 รายโดยที่ 6รายมองว่าราคาทองคำมีทิศทางขาขึ้น 12 รายกลับมองว่าเป้นภาวะหมีขาลงและมีเพียง 1รายกลับมองว่าไม่เปลี่ยนแปลง
นักวิชาการส่วนมากเชื่อว่าการซื้อขายทองคำค่าเฉลี่ยสำหรับปีนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆบริเวณ 1,300 เหรียญเท่านั้นซึ่งก็ยากที่จะมีการทะยานตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากที่เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถือได้ว่าไปแตะตัวที่ระดับค่อนข้างสูงแล้ว
ภาพรวมจากปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ราคาทองคำนั้นทะยานตัวที่ระดับสูงได้ก็มาจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะยูเครนที่มีปัญหากับรัสเซียในเวลานี้ ตลาดเกิดใหม่ที่กังวลต่อการปรับลดเม็ดเงินของเฟดอย่างมาก ปัจจัยจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากที่ตลาดหุ้นนั้นทะยานตัวติดแนวต้านที่สำคัญ
บ็อบ อาร์เบอร์คอร์นจาก อาร์เจโอเบรียน ได้กล่าวว่าทองคำยังคงล่าถอยและยังไม่สามารถฝ่าระดับ 1,350 เหรียญไปได้ง่ายสำหรับปลายสัปดาห์นี้ยังคงเห็นราคาปรับตัวลดลงมาซึ่งทองคำจะได้รับแรงหนุนต่อเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างมาสนับสนุนเท่านั้น
ตัวเลข Consumer Confidence ของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมหลังจากที่ก่อนหน้านี้ชาวอเมริกันได้รับผลกระทบกับสภาพอากาศที่เย็นขึ้นผิดปกติทำให้ผู้คนส่วนมากไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยและนิยมที่จะอยู่แต่ในที่พักอาศัยจากที่เวลานี้สภาพอากาศเริ่มผ่อนคลายแต่ประชาชนก็ยังคาดหวังเรื่องอัตราการจ้างงานที่น่าจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งเพิ่มขึ้นที่ระดับ 81.6 จากเดิม 81.2
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในสัปดาห์หน้าที่ต้องติดตามคือตัวเลขการจ้างงานว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยจะมีขึ้นในวันพุธที่ 5 มีนาคม และแผนนโยบายการเงินที่สำคัญของสหยุโรปอีกด้วย
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นทันทีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั้ง 16 สกุลเนื่องจากประธานาธิบดีปูติน วลาดิมีร์ได้มีท่าทีตอบโต้จากการรุกรานของยูเครนที่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดผลักดันการเข้าถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัยโดยที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.5% สู่ระดับ 101.28 เยนต่อดอลลาร์
ยอดการผลิตในประเทศจีนปรับตัวลดลงจากการที่ทางการจีนเตรียมออกกฎหมายปรับกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจอีกครั้ง Purchasing Manager index ของจีนลดลง สู่ระดับ 50.2 จุดจากเมื่อเดือนก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 50.5 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ดัชนีสำคัญอื่นๆของตลาดปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยมีแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.พ.ที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็มีปัจจัยลบจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 4 ปี 2556 ที่ลดลงอย่างมากจากประมาณการครั้งแรก
ดัชนีนิกเกอิ หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มสัปดาห์หน้า (3-7 มี.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน
- Prelim GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 2.4%
- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59.6 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 59.8
- Revised UoM Consumer Sentiment 81.2 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 81.6
- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -5.8% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.1%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Core PCE Price Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.1%
- Personal Spending ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2%
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.3 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 52.3
- ECB President Draghi Speaks
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำดีดขึ้นอย่างรวดเร็วในการเปิดตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดของยูเครน จากการที่รัสเซียสั่งให้ทหารเข้าประชิดยูเครน จึงทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก ณ ขณะนี้ปรับตัวลดลง 0.7% -1% ทั้งในตลาดฮ่องกง และญี่ปุ่นด้วย ราคาทองคำเองดีดตัวสูงขึ้นโดยเปิด GAP ดีดขึ้นมาประมาณ 16 เหรียญ เช้านี้มายืนอยู่ที่ระดับ 1,342 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์เองก็ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับ 1.3896 ดอลลาร์/ยูโร (ที่ปิดในคืนวันศุกร์) ปรับตัวลดลงมาขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1.3784 ดอลลาร์/ยูโร โดยที่ในคืนวันศุกร์ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจออกมาปนกันทั้งดีและไม่ดี ตามตัวเลขของสหรัฐอเมริกาข้างต้น ได้แก่ GDP ที่ออกมาปรับตัวลดลง 2.4% และ Pending Home Sales ที่ออกมาลดลง 0.1% และ Chicago PMI ออกมาดีขึ้น 59.8จุด ในส่วนดัชนีความเชื่อมั่นยังทรงตัวที่ระดับ 81.6 ซึ่งในคืนวันศุกร์ตลาดตอบรับในเชิงของการปรับตัวลดลง โดยราคาได้รับแรงเทขายจนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,320 เหรียญ และตลาด COMEX ก็ปิดในคืนวันศุกร์ที่ระดับ 1,327 เหรียญ และเพิ่งจะมีการดีดกลับได้ในเช้าวันนี้ สำหรับวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากทางสหรัฐอเมริกาได้แก่ Core PCE Price Index ที่คาดว่าจะทรงตัว Personal Spending คาดว่าจะออกมาลดลง และ ISM Manufacturing ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำดีดขึ้นมาชนแนวต้านสำคัญคือจุดสูงสุดเดิม 1,355 เหรียญ โดยที่ขณะนี้ราคาทองคำจะมีแนวต้านสำคัญ 1,355 เหรียญ การขึ้นครั้งนี้เป็นรูปแบบสภาวะทางการเมืองในระดับโลกจึงต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะเกิดสงครามอะไรหรือไม่ ในเชิงเทคนิคราคาน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,330 – 1,345 เหรียญในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ลงทุนในกรอบ 1,330 – 1,345 เหรียญ เน้นการขายทำกำไรในระยะสั้น เนื่องจากราคาจะแกว่งตัวจากสภาวะทางการเมืองของยูเครนและของโลก
* ถ้านักลงทุนมีการ Leverage เกิน 10 เท่า ควรที่จะลดการใช้ Leverage ลง และควรที่จะ Cut Loss ให้เป็น เข้า-ออกให้รวดเร็ว
นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้เข้าออกเร็ว ทำกำไรเมื่อมีโอกาสปิดสถานะ
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ไม่แนะนำให้ทำอะไร รอความชัดเจนของทิศทางตลาด เน้นบริหารพอร์ตให้ดี และไม่ Leverage เยอะจนเกินไป
Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,020 บาท
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,090 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้นักลงทุนสอบถามเรื่องการลงทุนในทองคำและทิศทางแนวโน้มของทองคำได้ในช่วง “คลินิกการลงทุน” ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น. โดยติดต่อได้ที่หมายเลข 02-725-7997
2. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel กลับมาออกอากาศได้ตามปกติ เวลาเดิม 21.30 – 21.35น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป