กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง บัญชีคุณภาพ สหกรณ์มั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง ว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พัฒนางานมาอย่างมีคุณภาพเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ได้มีการพัฒนางานสอบบัญชีและงานส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการบัญชี มีการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีเพื่อช่วยงานสอบบัญชี และพัฒนาเครื่องมือเตือนภัยต่างๆเพื่อช่วยให้สหกรณ์ได้ทราบว่าสหกรณ์ได้ดำเนินการเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงด้านใด และควรจะปรับปรุงแก้ไขการบริหารจัดการสหกรณ์อย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการธุรกิจของสหกรณ์และยังเห็นความสำคัญของการจัดทำบัญชีที่ช่วยให้เกษตรกร รู้ต้นทุนในการประกอบอาชีพ เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะปี 2557 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นให้เป็นปีแห่งการพัฒนาเพื่อให้เกิดคุณภาพใน 2 ระดับ นับว่าเป็นการมุ่งเน้นให้เกิดความมั่นคงกับภาคเศรษฐกิจที่เป็นรากฐานของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม นายวิมล กล่าว
ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสก้าวขึ้นสู่ปีที่ 63 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งการขยายตัวของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบความตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี (AEC) โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการพัฒนาคุณภาพการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 11,300 แห่ง ให้มีความโปร่งใสและเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาทุจริตและสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง
นอกจากนั้นยังมีแผนเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้มีความรู้เท่าทันระบบธุรกิจสหกรณ์ที่ความซับซ้อน มุ่งพัฒนาโปรแกรมบัญชีสหกรณ์ให้มีความทันสมัย ขับเคลื่อนและสานต่อโครงการเกษตรกรปราดเปรื่อง หรือ สามร์ทฟาร์เมอร์ (Smart Farmer) อีกทั้งยังมีแผนเร่งดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา มุ่งพัฒนาการบัญชีเด็กและเยาวชน พร้อมส่งเสริมให้โรงเรียนในถิ่นทุระกันดารและโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)เป็นต้นแบบด้านการบัญชี มีเป้าหมาย 60 โรงเรียน ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานให้ชุมชนที่อยู่ห่างไกลเกิดความเข้มแข็งและมีการดำรงชีพอย่างมั่นคงมากขึ้น นายวิณะโรจน์ กล่าว