กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม แนะเกษตรกรลดผลกระทบจากภัยแล้ง เลิกเผาตอซัง-ปลูกพืชใช้วัสดุคลุมดินเสริมด้วยการปลูกพืชที่ให้ผลตอบแทนต่อไร่สูง
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในการทำการเกษตร เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการปลูกพืช ถ้าพืชขาดน้ำเป็นระยะเวลานานจะทำให้พืชเกิดอาการเหี่ยวเฉาและตาย ซึ่งทำให้เกษตรกรไม่ได้รับผลผลิตและขาดทุนในที่สุด ทางออกในการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำและส่งเสริมให้เกษตรกร รู้จักการจัดการดิน เพื่อรักษาความชื้นในดินไม่ให้เกิดการ สูญเสียน้ำหรือขาดน้ำเป็นระยะเวลานาน โดยไถพรวนดิน ตัดขวางทางเดินของน้ำใต้ดินเพื่อลดการคายน้ำและไถพรวนดินทำแนวกันไฟ ไม่เผาตอซังและคลุมดินด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ฟางข้าว แกลบ ขี้เถาแกลบ ขี้เลื่อย หรือพลาสติกคลุมดิน ปลูกพืชตระกูลถั่ว คลุมดินแล้วสับกลบย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุจะช่วยดูดซับน้ำในดินไว้ได้นาน
เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของนาข้าว หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ควรไถกลบหรือตัดตอซังและใช้ฟางคลุมดินหรือใส่แกลบคลุมดิน ปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบ สำหรับพืชไร่ หลังเก็บผลผลิตเมื่อกำจัดวัชพืช แล้ว ให้ทิ้งเศษวัชพืชไว้ในแปลง หรือนำไปคลุมต้นพืชหลัก หรือใช้ฟางและพลาสติกคลุมดิน ส่วนไม้ผล ให้คลุมโคนต้นด้วยฟาง เปลือกถั่ว เศษใบไม้ ใบหญ้า ปลูกพืชตระกูลถั่วรอบบริเวณโคนต้น โดยเริ่มคลุมในช่วงปลายฤดูฝนหรือช่วงฤดูแล้ง พืชผัก คลุมด้วยฟางข้าว แกลบสด พลาสติก ก็จะช่วยลดผลกระทบจากภัยแล้งได้ระดับหนึ่ง
เกษตรกรที่สนใจจะและมีปัญหาด้านการเกษตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔