กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10 ) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 28 - 188ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนเกือบทุกสถานี และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง น่าน และแพร่ ขณะที่อีก 2 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน ตาก คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่ง ปภ. ได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้มมิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง รวมถึงขอความร่วมมือประชาชน งดเว้นการเผาทุกชนิด เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศของ 9 จังหวัดภาคเหนือกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 28 - 188 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับดีถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนเกือบทุกสถานี โดยบริเวณสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีปริมาณฝุ่นละอองสูงสุด ค่า PM10 188 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ ค่า AQI อยู่ที่ 130 ขณะที่บริเวณศาลากลางเชียงใหม่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง จังหวัดลำปาง สถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ จังหวัดแพร่ สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน มีคุณภาพอากาศในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนจังหวัดลำพูนและตากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง
ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสาน 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือดำเนินมาตรการคุมเข้ม มิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะการเผาริมทาง พื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันมิให้วิกฤตมากขึ้น รวมถึงระดมรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณหมอกควันฝุ่นละอองในอากาศ ตลอดจนบูรณาการทุกภาคส่วนสนธิกำลังในการระดมวัสดุอุปกรณ์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควัน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป