อนันดาฯ โชว์ตัวเลขกำไรสุทธิไตรมาสสอง เติบโตก้าวกระโดด 188% เตรียมปรับเป้ายอดขายเพิ่ม หลังตัวเลขยอดขายไตรมาส 2 สูงเกินคาด พร้อมประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล

ข่าวอสังหา Thursday August 14, 2014 13:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า ประกาศความสำเร็จอีกครั้งในการบริหารงานเติบโตอย่างมั่นคง โดยในไตรมาสสองของปี 2557 สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 166% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าไตรมาสแรก 41% อีกทั้งเกินกว่ายอดรายได้ที่ประมาณการไว้ 12% ส่งผลให้มีรายได้กว่า 2,519 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรสุทธิ 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก สูงถึง 188% และ เพิ่มขึ้นกว่า 415 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 96 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้นในไตรมาสสองของปีนี้ สามารถสร้างยอดขายสูงถึง 1,671 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ถึง 109% จึงมีแผนปรับเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้อีก 20% เป็น 11.6 พันล้านบาท ย้ำเชื่อมั่นในแบรนด์ "ไอดีโอ" เติบโตแข็งแกร่ง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด นางมัณทนา เอื้อกิจขจร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทมีความปลาบปลื้มในการประกาศความสำเร็จที่สามารถสร้างรายได้ และกำไรที่ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่ายอดโอนสิทธิ์บางส่วน จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจ แต่ด้วยความต้องการซื้อจากลูกค้าที่แข็งแกร่งและมีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ผ่านมาเป็นตัวช่วยผลักดันให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตกว่า 166% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 36% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 34% และอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมากอยู่ที่ระดับ 13% จากไตรมาสแรกที่รายงานเพียง 6% สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดียิ่ง โดยอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 19% จากไตรมาสแรกที่ 24%” นายเท็ด โปษะกฤษณะ ถิระพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ยอดขายในไตรมาสสองของปีนี้ ประสบผลสำเร็จดีเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 109% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้ายังคงได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ทางการเมือง และสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยยอดขายคอนโด เพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่ตั้งเป้าไว้ 200% แม้ว่าไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่แต่อย่างใด ซึ่งยอดขายในไตรมาสนี้มาจากโครงการเดิมทั้งสิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งของลูกค้า ในการมีที่อยู่อาศัยใกล้ระบบขนส่งแบบราง แม้ว่าไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆก็ตาม” “ลูกค้าของอนันดาฯ ยังไม่มีสัญญาณของปัญหาทางการเงิน แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง โดยลูกค้าที่ซื้อด้วยเงินสดยังมีมากถึง 35% และลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทสามารถขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับสถาบันการเงินผ่านทุกราย ซึ่งกำลังจะสร้างสถิติที่น่าทึ่งว่าในปี 2557 ลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทจะขอสินเชื่อผ่านทุกราย” นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก สามารถสร้างรายได้ และยอดขายที่ดีเกินกว่าเป้าที่วางไว้ แม้ว่าในช่วงสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนก็ตาม” “อนันดาฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและโดดเด่นในครึ่งปีแรก แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมก็ตาม นอกจากนี้บริษัทมีมุมมองเชิงบวกมากยิ่งขึ้น จากจุดต่ำที่สุดที่เกิดขึ้น และแผนในการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทในระยะเวลาอันใกล้นี้ จึงทำให้บริษัทมีแผนปรับเพิ่มยอดขายทั้งปี 2557 นี้” “อนันดาฯ มีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด หลังจากที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปี 2555 โดยบริษัทสามารถสร้างกำไรในไตรมาสสองของปี 2557 ถึง 319 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์อย่างชัดเจน จากที่ขาดทุน 96 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทก็ซื้อที่ดินซึ่งจำเป็นสำหรับการเติบโต และเปิดขายโครงการใหม่ในปีนี้ด้วย” “จากการออกหุ้นกู้ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในระดับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.4% ต่อปี ทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต และความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดการเงินได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการจัดหาเงินทุนซึ่งเพียงพอสำหรับการเติบโต แม้ในช่วงวิกฤตทางการเมืองก็ตาม” “การประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.03 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายที่ให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลที่สามารถคาดการณ์ได้ และเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับ 23% จากกำไรสุทธิในงบการเงินรวม ขณะที่บริษัทยังสามารถนำเงินทุนที่มีอยู่ ไปลงทุนตามแผนดำเนินธุรกิจระยะยาว 5 ปี และสร้างเงินปันผลที่คาดการณ์ได้ ปราศจากความผันผวนของราคาหุ้น และกำไรในระยะสั้น”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ