ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 22, 2014 09:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - ทองร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 - รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด - ติดตามประธานเฟดแสดงสุนทรพจน์ ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวลงในปริมาณค่อนข้างมาก และปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 6 ต่อเนื่องติดต่อกัน ส่งผลให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ ปัจจัยลบจากการายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาดยังคงกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ 58.0 จุดสูงสุดนับแต่ปี 2553 ในขณะที่ผลสำรวจประเมินไว้ที่ 55.7 จุด ส่วนรายงานยอดขายบ้านมือ 2 เดือนกรกฎาคมขยายตัวขึ้นสู่ 5.15 ล้านยูนิต ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐนั้น ปรับตัวลง 14,000 ราย สู่ระดับ 2.98 แสนราย ต่ำกว่าผลสำรวจที่ประเมินว่าจะมีจำนวน 3.02 แสนราย การประชุมของเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางทั่วโลกเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะการแสดงทัศนะของประธานธนาคารกลางสหรัฐ นักลงทุนต่างรอติดตามว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด หลังจากในรายงานการประชุมครั้งหลังสุดของธนาคารกลางสหรัฐระบุว่ามีเจ้าหน้าที่หลายรายเริ่มให้ความเห็นถึงประเด็นนี้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,260-1,265 ดอลลาร์ แต่ด้วยราคาทองปรับตัวลงต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน จึงอาจมีการดีดตัวในระยะสั้นเกิดขึ้น หากราคาทองดีดตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,285-1,290 ดอลลาร์ ยังคงเป็นระดับแนวต้านที่คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาและกดดันราคาทองให้กลับอ่อนตัวลงต่อไป ราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มอ่อนตัว ในระหว่างวันหากมีการดีดตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 19.50-19.60 ดอลลาร์ ยังคงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 19.30 และ 19.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.57 Close chg. Support Resistance 19,510 -180 19,450/19,300 19,600/19,750 ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่เป็นจุดปิดสถานะซื้อตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,280 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวของราคาทองจึงมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงต่อ และสามารถกลับมาเปิดสถานะขายเก็งกำไร โดยมีแนวต้านสำหรับกลับเข้าเปิดสถานะอยู่ที่บริเวณ 1,285-1,290 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,300-1,305 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ