จากจินตนาการอันบริสุทธิ์ สู่การใช้ความคิดสร้างสรรค์ สร้างพลังแห่งการคิดบวก ครั้งแรกของการเรียนรู้ศิลปะผ่านโปรเจ็กต์รางวัลระดับโลก กับค่าย Green Creative Camp

ข่าวทั่วไป Monday November 17, 2014 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--เวิรฟ ในโลกของเด็กนั้น ศิลปะ คือ การแสดงออกอย่างอิสระเสรี ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งต่างๆ ความบริสุทธิ์ จริงใจ เปิดเผย ตรงไปตรงมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดเปิดโอกาสสนับสนุนให้เด็กได้แสดงออก ชื่นชมต่อธรรมชาติ การเคลื่อนไหว ดนตรี ศิลปะ ความไพเราะ และสิ่งสวยงามต่างๆ ฝึกให้เด็กรู้จักใช้ประสาทสัมผัสให้สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้เด็กได้สังเกต มีไหวพริบ มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักควบคุมตัวเองและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และมีลักษณะนิสัยที่ดีงาม กิจกรรม Green Creative Camp ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คือหนึ่งในค่ายศิลปะที่เรียกได้ว่าได้รับการตอบรับจากบรรดาเด็กๆ พ่อแม่ ผู้ปกครองเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นการสอนวาดรูปจินตนาการในเส้นสี งานปั้นสัตว์โบกน่ารักจากดินจุฬา งานประดิษฐ์กระเป๋าใส่ฝัน สร้อยคอสายรุ้งจากเศษวัสดุ ที่ต่างมีหนูๆ น้องๆ มาเรียนกันจนล้นห้อง โดยกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ และคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์ ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ อาจารย์ ดร.อินทิรา พรมพันธุ์ และอาจารย์ ดร.โสมฉาย บุญญานันต์ เป็นสามหัวเรือใหญ่ในการร่วมออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอมครั้งนี้ การวาดเส้น เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อมือพร้อมกับประสาทตา ผ่านทางสื่อประเภทเครื่องเขียน ซึ่งช่วยฝึกความพร้อม และความแม่นยำของการใช้ประสาทตาและกล้ามเนื้อมือ การระบายสี เริ่มจากการระบายสีโดยใช้นิ้วมือ ดินสอสี แล้วจึงพัฒนาเป็นการใช้พู่กัน เมื่อวาดเสร็จแล้วควรพูดโน้นน้าวให้เด็กอธิบายถึงเรื่องราวและจินตนาการที่เขาถ่ายทอดมาผ่านภาพวาด การปั้น ช่วยส่งเสริมให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสทุกส่วนอย่างสัมพันธ์การปั้นดินกระตุ้นให้เด็กใช้กล้ามเนื้อมือ แขน ไหล่ คอ และหลัง ซึ่งเขาสามารถปั้นเป็นรูปอะไรก็ได้โดยไม่มีขีดจำกัด ศิลปะในเด็ก คือจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการที่ไม่หยุดนิ่ง อาจารย์ ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ กล่าวว่า “ศิลปะอย่างการวาดภาพนั้นคือการดึงความบริสุทธิ์ภายในตัวเด็กออกมา เราจะไม่ให้เขาวาดภาพเหมือน แต่ให้เขาได้ใช้ลายเส้นเป็นสัญลักษณ์การแสดงออกซึ่งจินตนาการของพวกเขา ให้พวกเขาได้มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลได้ของตนเองได้อย่างเต็มที่ เราจะเห็นได้ว่าศิลปินระดับโลกหลายคนนั้นไม่ได้วาดภาพเหมือน แต่พวกเขาวาดบุคคลในความคิดในจินตนาการอันบริสุทธิ์ของพวกเขาจนออกมาเป็นภาพวาดที่มีคุณค่าจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกัน เราก็ต้องปลูกฝังให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่ยังเยาว์วัย เพื่อให้ความบริสุทธิ์ทางความคิดนี้คงอยู่จนพวกเขาเติบโตไม่จางหายไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น” พี่สอนน้อง...ส่งต่อพลังบวกสู่สังคมผ่านศิลปะ “ทางศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ มีความตั้งใจที่จะให้ศูนย์ฯ เป็นแหล่งรวมความสุขของทุกคนของครอบครัว การจัดกิจกรรม Green Creative Camp ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมมือกับคณะอาจารย์จากคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความชำนาญและโดดเด่นด้านศิลปะ เพื่อเปิดสอนศิลปะสำหรับเด็กๆ ส่งเสริมให้พวกเขาได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ และถือได้ว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และเราจะใช้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมต้นแบบในการจัดกิจกรรมครั้งต่อๆ ไปในทุกๆ ช่วงปิดเทอม โดยอาจจะขยายผลไปเป็นการพัฒนาชุมชนด้วยศิลปะ ให้คนในชุมชนได้ใกล้ชิดกับศิลปะเพื่อการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ต่อไป อีกทั้งยังเป็นสิ่งเล็กน้อยที่เราจะร่วมสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและสังคมที่เราดำเนินธุรกิจอยู่อีกทางหนึ่งด้วย” นายวันชัย จันทร์วัฒรังกูล กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กล่าว อาจารย์ ดร.อินทิรา พรมพันธุ์ หนึ่งในอาจารย์ผู้ร่วมจัดงาน Green Creative Camp เล่าให้ฟังว่า“งานศิลปะ คืองานสร้างสรรค์ ที่เพิ่มพลังบวกให้กับทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่พวกเขายังมีความบริสุทธิ์สดใส สามารถซึมซับรับเอาสิ่งดีงามเข้าไปในชีวิตได้ง่าย จริงๆ แล้วทุกคนมีหัวด้านศิลปะที่ซ่อนอยู่ในตัวเองทั้งนั้น หากได้รับการกระตุ้นที่ถูกวิธี เราก็จะนำออกมาใช้ในทางบวกต่อไปได้ เมื่อเราสร้างสรรค์สิ่งดีๆ จากพลังบวกในตัวเรา เราก็เป็นคนที่คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีความสุขในทุกๆ นาทีของชีวิตได้ไม่ยาก และยิ่งเราส่งต่อพลังบวกของเราได้มากเท่าไร สังคมก็ยิ่งน่าอยู่มากขึ้นเท่านั้น โดยทางครุศาตร์ จุฬาฯ ได้มีการจัดกิจกรรมศิลปะเพื่อชุมชนอยู่เป็นประจำ โดยจะมีบรรดานิสิตลงพื้นที่ไปช่วยทำกิจกรรม เป็นส่งต่อพลังบวกจากพี่สู่น้อง เช่นเดียวกับกิจกรรม Green Creative Camp ที่เราได้ร่วมมือกับทางศูนย์การค้าธัญญา พาร์คจัดขึ้นในครั้งนี้ เพราะเรามีเจตนารมณ์เดียวกันที่จะร่วมสร้างความสุขคืนสังคมผ่านงานศิลปะ” รอยยิ้ม กำลังใจ สร้างได้ง่ายๆ ผ่านศิลปะ อาจารย์ ดร.โสมฉาย บุญญานันต์ “จากประสบการณ์การทำงานด้านศิลปะมา และมีโอกาสได้ใช้เวลาคลุกคลีกับเด็กๆ นั้น สิ่งที่เห็นมากที่สุดคือ พวกเขาจะรู้จักสังเกตสิ่งรอบตัวมากขึ้น เริ่มมองสิ่งแวดล้อมในมุมมองของงานศิลป์ จนสร้างสรรค์ออกมาเป็นชิ้นงานศิลปะ หลังจากพวกเขาได้มีผลงานศิลปะเป็นของตัวเอง พวกเขาจะมีรอยยิ้มแห่งความภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาได้ลงมือทำ และประโยชน์อีกข้อหนึ่งที่คิดว่าพ่อแม่ทุกคนน่าจะชอบคือเด็กๆ จะมีสมาธิอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานมากขึ้น จะมีความตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขาออกมาได้อย่างดีที่สุด และแน่นอนว่าพวกเขาจะเรียนรู้จากการใช้เวลาในการสร้างสรรค์งานศิลปะไปสู่การทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ต้องใช้สมาธิอย่างการเรียนในห้องเรียน ทำการบ้าน ทบทวนบทเรียน คือกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ” โดยปกติเวลาว่างจะชอบเล่นเกม ดูการ์ตูน แต่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลองมาเรียนวาดรูปดู เพราะอยู่ใกล้ๆ บ้าน ก็เลยลองมาเรียน พอได้วาดรูปจริงๆ รู้สึกชอบมาก เหมือนว่าเราได้ใช้ความคิดของเราอย่างเต็มที่ คุณครูไม่ได้จำกัดว่าเราต้องวาดแบบไหน พี่ๆ นิสิต ก็จะช่วยสอนช่วยแนะนำ ว่าควรใช้สีไหนดี ทำให้รูปเราออกมาสวย คุณแม่คุณแม่ชมผลงานของเรา ก็ยิ่งรู้สึกดีใจ และภูมิใจ“ เด็กชายถิรภัทร น้านาคินทร์ อายุ 9 ปี เล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เรียนรู้งานศิลปะผ่านโปรเจ็กต์รางวัลระดับโลก “ดินจุฬา” หากใครอยู่ในแวดวงงานศิลป์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ดินจุฬา” ผลงานสิ่งประดิษฐ์ที่คว้ารางวัล 2 เหรียญทอง จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกอย่างการประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติแห่งเจนีวา ในรางวัลประเภท Teaching methods and materials – Musical Instruments – Art Materials (Class O) และ ประเภท Clothing- Textile- Machine and Accessories (Class L) โดยดินจุฬานั้นเป็นการพัฒนาเนื้อสีและเนื้อดินชนิดพิเศษที่ให้คุณสมบัติเป็นประกายมุก ซึ่งต่างไปจากวัสดุปั้นที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด โดยการนำเกล็ดประกายมุกที่แปรรูปจากเปลือกหอยแมลงภู่ ซึ่งเป็นขยะอุตสาหกรรมอาหารทะเลจำนวนมหาศาลในแต่ละปีมาใช้พัฒนาเป็นดินจุฬา โดยต้องการให้เป็นวัสดุสำหรับปั้นที่มีประกายแวววาวในเนื้อดิน ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย เป็นวัสดุทางศิลปะที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผลิตจากขยะเหลือทิ้ง และมีขั้นตอนในการนำไปใช้สร้างผลงานศิลปะที่ประหยัดพลังงาน เมื่อปั้นเสร็จแล้วสามารถตั้งทิ้งไว้ให้แห้งแล้วนำไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องใช้เตาเผา ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ที่สำคัญที่สุดคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ” น้องธันเดอร์ – ด.ช. ภริภูลาภ ผนังนิรันด์ อายุ 10 ขวบ เล่าให้ฟังว่า “ชอบกิจกรรมนี้มาก โดยเฉพาะการปั้น เพราะปกติวิชาศิลปะคือวิชาที่ชอบเรียนที่สุดอยู่แล้ว โดยตอนแรกคุณแม่พามาเรียนการวาดภาพก่อน ก็เริ่มรู้สึกสนุกจึงขอให้คุณแม่พามาเรียนการปั้นด้วย โดยเฉพาะการปั้นรูปสัตว์ต่างๆ โดยในการเรียนครั้งนี้ได้ลองปั้นทั้งช้าง และแมว รู้สึกภูมิใจในฝีมือของตัวเองมาก นอกจากจะได้มาเรียนแล้วยังได้เพื่อนใหม่อีกด้วย ทำให้ปิดเทอมนี้ไม่น่าเบื่อเลย” ภายในค่ายศิลปะ Green Creative Camp นี้ ครูเอื้อยและครูแพน ได้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เทคนิคงานปั้นดินจุฬา ภายใต้หัวข้อ “สัตว์โลกน่ารักจากดินจุฬา” ซึ่งเด็กๆ รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ทดลองปั้นดินจุฬา โดยทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจปั้นเหล่าสิงสาราสัตว์ที่ตัวเองชอบในแบบของตนเองกันอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ได้ร่วมกิจกรรมกับเจ้าของผลงานระดับโลกกันเลยทีเดียว รู้หรือไม่ว่าการทำงานศิลปะจะช่วยให้เกิดการใช้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาอย่างคุ้มค่าและ เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยปรับอารมณ์ให้สงบ และมีสมาธิดีขึ้น ดังนั้นส่งผลดีต่อความฉลาดทางสติปัญญา หรือ “ไอคิว” และความฉลาดทางอารมณ์หรือ “อีคิว”.... มาใช้เวลาว่างผ่านงานศิลปะกันดีกว่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ