สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองรอบ6เดือนของรัฐบาล

ข่าวทั่วไป Tuesday November 25, 2014 15:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,144 คนสามารถสรุปผลได้ ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.79 ขณะที่ร้อยละ 49.21 เป็นเพศชาย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.86 และร้อยละ 25.44 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปีและ 35 ถึง 44 ปีตามลำดับ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 34.79 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชนและข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งคิดเป็นร้อยละ 31.03 และร้อยละ 25.17 ตามลำดับ ในด้านความพึงพอใจต่อการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งขาติในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมานั้นได้แสดงรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้โดยจำแนกออกเป็นการดำเนินงาน 10 ด้าน สำหรับการดำเนินงานที่กลุ่มตัวอย่างมีระดับความพึงพอใจมากสูงสุด 3 อันดับได้แก่ การแก้ไขความไม่สงบ/ความวุ่นวายทางการเมือง การปราบปรามเว็บไซด์/ผู้กระทำการอันเป็นการหมิ่นสถาบันและการแก้ไขปัญหายาเสพย์ติด/อบายมุข/การพนัน คิดเป็นร้อยละ 49.83 ร้อยละ 47.38 และร้อยละ 40.47 ตามลำดับ ส่วนการดำเนินงานที่กลุ่มตัวอย่างไม่พึงพอใจเลยสูงสุด 3 อันดับได้แก่ การแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภค/บริโภคราคาแพง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร/ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำและการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในนโยบาย/กิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐ คิดเป็นร้อยละ 18.27 ร้อยละ 17.92 และร้อยละ 17.4 ตามลำดับ ในด้านความคิดเห็นต่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 56.03 มีความคิดเห็นว่าการเข้าดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาส่งผลให้กลุ่มการเมืองต่าง ๆ มีความเคลื่อนไหวลดลงไป แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กลัวว่าในอีก 1 ปีนับจากนี้อาจจะเกิดความไม่สงบ/ความวุ่นวายทางการเมืองซึ่งคิดเป็นร้อยละ 47.73 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 39.07 ไม่กลัว ส่วนกลุ่มตัวอย่างอีกร้อยละ 13.2 ไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.39 ระบุว่าการประกาศกฎอัยการศึกไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างไม่ถึงหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 18.09 ที่ระบุว่าส่งผลกระทบ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 7.52 ไม่แน่ใจ ในด้านความเชื่อมั่นต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62.15 ยังคงให้ความเชื่อมั่นกับการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 26.22 ไม่เชื่อมั่นแล้ว และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.63 ไม่แน่ใจ และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 65.47 มีความคิดเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตยในปีหน้า (พ.ศ. 2558) ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 24.04 มีความคิดเห็นว่าจำเป็น ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.49 ไม่แน่ใจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ