กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
Bu Theatre Company ภาควิชาศิลปะการแสดงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการศึกษาซึ่งมีหน้าที่หล่อหลอมพลเมืองคุณภาพได้ริเริ่มโครงการปลุกจิตสำนึกและสร้างความเข้าใจของประชาชน ผ่านเวทีฟังธรรมเสวนาในหัวข้อ“การบิดเบือนความเชื่อทางพุทธศาสนา พุทธพาณิชย์ ผิดหรือถูก” โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยนักศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจปัญหาสังคมอันเกิดจากความบิดเบือนให้ถ่องแท้ และมีความรู้อย่างลึกซึ้งก่อนที่นักศึกษาจะได้สร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมต่อไป
ผศ.พรรณศักดิ์ สุขี ผู้อำนวยการศิลป์ BU Theatre Company และหัวหน้าภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า เป็นผู้หนึ่งที่ริเริ่มโครงการปลุกจิตสำนึกและสร้างความเข้าใจของประชาชน ในการเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังธรรมเสวนาในหัวข้อ “การบิดเบือนความเชื่อทางพุทธศาสนา พุทธพาณิชย์ ผิดหรือถูก” โดยมีการถกประเด็นที่กำลังเป็นที่ฮือฮากันในช่วงนี้ว่า การทำบุญที่แท้จริงคืออะไร กับ 2 พระธรรมวิทยากร พระพยอม กัลยาโณ และ ภิกษุณีธัมมนันทา ร่วมด้วย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ (ส.ศิวรักษ์) นักเขียนผู้ได้รับการขนานนามว่า ปัญญาชนสยาม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนักศึกษาและคณาจารย์ภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตระหนักถึงปัญหาทางสังคมอันเกิดจากการบิดเบือนคำสอนและความเชื่อทางพระพุทธศาสนาไปสู่ปรากฏการณ์ “พุทธพาณิชย์” โดยอาศัยกุศโลบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นการบริจาคของพุทธศาสนิกชน ซึ่งภายหลังปรากฏชัดว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มเข้าใจการบริจาคในทางที่ผิด อาทิ ทำบุญหวังผล และ ปริมาณบุญขึ้นอยู่กับปริมาณทรัพย์ที่บริจาค
ภาควิชาฯ ในฐานะสถาบันการศึกษาซึ่งมีหน้าที่หล่อหลอมพลเมืองคุณภาพจึงริเริ่มโครงการปลุกจิตสำนึกและสร้างความเข้าใจของประชาชน โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับความสนใจในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม นักศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจ
โดยบรรยากาศการเสวนา ได้รับความสนใจจากนักศึกษา คณาจารย์ ประชาชน เข้าฟังคับคั่ง โดยให้ความสนใจในประเด็น"การบิดเบือนความเชื่อทางพุทธศาสนา พุทธพาณิชย์ ผิดหรือถูก" มีการแสดงออกทางความเห็นเพื่อให้เข้าถึงแก่น อย่างแท้จริง
พระพะยอม กัลยาโณ วันสวนแก้ว กล่าวว่า คำสอนของพุทธศาสนา หัวใจสำคัญ คือ สอนให้รู้จักทุกข์ และการดับทุกข์ การทำบุญ ก็เพื่อชำระจิตใจให้สะอาด ทำบุญไม่หวังผล ซึ่งปัจจุบันมีการบิดเบือนไป กลายเป็นพุทธพิธีมากเหมือนที่มีการบิดเบือนว่า ใครทำบุญมาก ได้มาก ก็ทุ่มเททำบุญกันไปจนหมดตัวก็มี ซึ่งหัวใจของการสอนของพระพุทธ ศาสนา หัวใจสำคัญ คือเพื่อการละทิ้งกิเลสเพื่อดับทุกข์และเข้าสู่พระนิพพาน
พระภิกษุณีธัมมนันทา กล่าวว่า คนสมัยนี้ทำบุญเหมือนจะบ้าบุญ ขณะที่พระภิกษุสงฆ์ต้องการจะเอาใจคนทำบุญ ก็คิดหาวิธีเพื่อให้คนเข้าวัด โดยเอาบุญมาเป็นตัวจูงใจ ซึ่งการทำบุญควรพิจารณาว่าพระรูปนั้นรักษาสมณะสัญญา หรือดำรงตนให้พ้นจากวัตถุ และมุ่งสู่พระนิพพาน สิ่งที่ถวายไปอาจจะเกินพอดี ทำให้พระเสีย ทั้งนี้โครงสร้างของพุทธศาสนานั้น คือพุทธบริษัทสี่ ประกอบด้วยภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา ดังนั้นเรื่องของศาสนาหากถูกบิดเบือนไป ก็ไม่ใช่แค่เรื่องของมหาเถรสมาคม หรือเป็นเรื่องของภิกษุเท่านั้น ดังนั้นประชาชนควรมีส่วนร่วมในการดูแลพระพุทธศาสนาให้เป็นไปตามหลักคำสอนที่ถูกต้อง
นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักเขียน กล่าวว่า มนุษย์สามารถที่จะเปลี่ยนความเกลียดเป็นความรัก เปลี่ยนความรักเป็นปัญญา หัวใจของพุทธศาสนาคือ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นกุญแจสำคัญของการลดอัตตา ความเสื่อมของพุทธศาสนา ที่ชัดมากคือบิดเบือนเป็นพุทธพาณิชย์ในเวลาต่อมา พราะสมัยโบราณพระภิกษุอยู่ได้ด้วยการบิณฑบาตร ไม่มีที่อยู่ก็อยู่ตามต้นไม้ ยา ก็นำรากไม้มาใช้